ความยุ่งยากของการเดินห้างสรรพสินค้าคือการที่สินค้าต่าง ๆ ถูกจัดหมวดหมู่ให้อยู่ด้วยกันเป็นโซนยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเราก็ต้องไปซื้อที่ร้าน Power Buy แต่ถ้าเราต้องการซื้อเครื่องเขียนต่อเราต้องมุ่งหน้าไปยังร้าน B2S ที่ไม่ได้อยู่ติดกัน ยิ่งในห้างอย่างเซ็นทรัลเวิลด์ ห้างที่ชวนหลง(ใหล) มากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพคงเป็นเรื่องลำบากและงงงวยไม่น้อยในการช็อปปิ้ง
โดยล่าสุด Power Buy และ B2S ได้ร่วมมือกันเปิดตัวแฟลกชิพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยบนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ณ ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองอย่างเซ็นทรัลเวิลด์ จากจุดประสงค์ความตั้งใจอยากให้ ‘เพาเวอร์บาย x บีทูเอส แฟลกชิพสโตร์’ เป็นสถานที่สำหรับให้ทุกคนได้มาช็อปปิ้ง ให้คนในครอบครัวได้มาใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันไม่ว่าจะวัยไหน ๆ และได้สนุกไปกับประสบการณ์การช็อปปิ้งสุดพิเศษ ที่ไม่ว่าคุณจะมีความหลงใหล หรือมีไลฟ์สไตล์แบบไหนที่แห่งนี้ก็มีสินค้ามากมายให้เลือกสรรอย่างครบวงจร
มาพร้อมนวัตกรรมการช็อปปิ้งรูปแบบใหม่อย่าง Omni Channel ที่ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีช่องทาง “PowerBuy x B2S@CTW” Line CHAT@SHOP ทำให้การช็อปปิ้งเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายขึ้น ไม่ว่าเวลาไหนก็สามารถซื้อสินค้าได้เพียงส่งรูปสินค้าที่อยากได้เข้าในช่องทางดังกล่าวหลังจากนั้นพนักงานขายจะทำการตรวจสอบสถานะสินค้าพร้อมทั้งหยิบสินค้ามาให้เราที่จุดบริการ ทำให้เราสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าได้ง่ายขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์
One-Stop Destination บนพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร
บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ที่ถือเป็น One-Stop Destination ครบจบในที่เดียวสำหรับการช็อปปิ้ง รวมถึงยังเป็นศูนย์กลางคอมมูนิตี้ให้ผู้บริโภคได้ใช้เวลาสร้างสรรค์หาแรงบันดาลใจได้ภายในพื้นที่ โดยประกอบไปด้วย 12 โซนไฮไลท์ที่ครอบคลุมสินค้านา ๆ ประเภทยกตัวอย่างเช่น
พื้นที่สำหรับเหล่าเครื่องใช้ไฟฟ้าและเทคโนโลยีภายในบ้านถูกจัดอยู่ที่โซน Vision & Sound Gallery โซนที่มีชุดเครื่องเสียงและโทรทัศน์บน TV wall ขนาดยักษ์ ที่ช่วยมอบมิติใหม่ ให้ความรู้สึกเสมือนการเดินชมภาพในแกลเลอรี่ชั้นนำของโลก หรือจะเป็นโซน Smart Home Living ที่มีเหล่าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มาพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมายมาให้เลือกสรร
Cooking Studio เรียกได้ว่าน่าจะเป็นพื้นที่ที่คนรักการทำอาหารต้องชื่นชอบ เพราะเป็นโซนที่รวมเอาเหล่าเครื่องครัวมาให้เลือกช็อปอย่างครบครัน แถมยังมีความพิเศษอยู่ตรงที่ในทุกสัปดาห์จะมีเชฟชื่อดังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเปิดคลาสสอนทำเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ หรือจะเป็นโซน Creative Leisure พื้นที่สำหรับคนสร้างสรรค์ที่ชื่นชอบในงานศิลปะ ภายในมีสินค้าที่เกี่ยวกับงานศิลปะ งาน D.I.Y และงานคราฟต์ต่าง ๆ ช่วยต่อยอดไอเดียใหม่ ๆ ได้ผ่านกิจกรรม Workshop ในแต่ละสัปดาห์กับนักวาดและศิลปินทั้งในไทยและต่างประเทศ
Play & Learn เพลิน Ground โซนพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก ที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ผ่านหนังสือและของเล่นนานาชนิดรวมถึงสื่อการเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ ปิดท้ายด้วยโซน Passion’s Library โซนหนังสือที่คัดสรรมาให้เลือกในทุกหมวด สำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่เพียงเท่านั้น โซนดังกล่าวยังเป็นคลับสำหรับคนรักหนังสือ ที่เน้นสร้างชุมชนคนรักหนังสือให้ได้มารวมตัวแลกเปลี่ยนความรู้และไอเดียภายในพื้นที่ได้อย่างสร้างสรรค์
แบ่งโซนพื้นที่ด้วย Element ที่แตกต่าง
หลังจากเดินสำรวจแฟลกชิพสโตร์บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร เราจะมองเห็นการออกแบบที่ใช้พื้นที่แบบ Open plan ที่ทุก ๆ พื้นที่เชื่อมต่อกัน ชวนให้เราได้เดินสำรวจภายในอย่างลื่นไหล โดยแต่ละโซนจะมีคาแรคเตอร์ของพื้นที่ที่ แตกต่างกันออกไปผ่านการจัดแสงและสีภายใน อย่างเช่นโซนที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้า Gadget ต่าง ๆ จะมีการตกแต่งเพื่อแสดงให้เห็นถึงความทันสมัยจากการใช้ไฟเส้นตรง ที่มอบอารมณ์ รวดเร็ว ทันสมัยรวมถึงการใช้กระจกสะท้อนต่าง ๆ ในทางกลับกันโซนสำหรับเด็ก ๆ อย่างโซน Play & Learn เพลิน Ground มีการเลือกใช้เส้นโค้งที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน ไฟที่ใช้ก็เลือกใช้โทนสีอบอุ่นมอบความรู้สึกเป็นมิตรได้อย่างลงตัว นอกจากสองโซนดังกล่าวพื้นที่อื่น ๆ ก็มี element ของพื้นที่ที่แตกต่างทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจนผ่านการตกแต่งภายใน