ถ้าพูดถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ที่มีคาเฟ่และร้านอาหารชั้นดีดีไซน์เก๋ผุดขึ้นเป็นแหล่งไอเดียให้กับ Cafe Hopper ก็ต้องหนีไม่พ้น “อารีย์” แต่มากกว่าเป็นทำเลสุดฮิปของยุคนี้ หากสืบย้อนกลับไปถึงอดีต อารีย์คือย่านชุมชนพักอาศัยเก่าแก่ชั้นดีของกรุงเทพฯ ในบริเวณนี้เราจึงได้เห็นการอยู่ร่วมกันของงานดีไซน์สองยุค ทั้งจากโมเดิร์นยุคเก่าผ่านบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์มาจนถึงสิ่งก่อสร้างและงานอินทีเรียร์รูปแบบใหม่ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างดีไม่มีเบื่อ
เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีที่ผ่านการหล่อหลอมจากงานออกแบบชั้นดีมาตั้งแต่ยุคก่อนหน้า ผันผ่านมาสู่ยุคใหม่ที่รายล้อมด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายของรถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SAVVI เลือกออกแบบอาคารพักอาศัยแบบ Low Rise ด้วยการใช้งานดีไซน์เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและสะท้อนความเป็นตัวตนที่ผ่านการออกแบบมาอย่างดีของย่านอารีย์
SAVVI Architecture Concept
โครงการ SAVVI จึงให้ความสำคัญกับคอนเซ็ปต์ของงานดีไซน์ ตั้งแต่ตัวสถาปัตยกรรมของอาคารที่ต้องการสร้างมิติทางด้านมุมมองเพื่อให้หลอมรวมได้อย่างลงตัวกับบริบท ของที่ตั้งที่รายรอบไปพร้อมกับการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับผู้อาศัยได้ราวกับอยู่บ้าน โดยเริ่มจากตัวอาคารที่เล่นกับระนาบของพื้นผิวอาคารด้วยระเบียงที่ลดหลั่นในระยะที่แตกต่างกัน สร้างให้ตัวอาคารดูโดดเด่น และยังสร้างฟังก์ชั่นของร่มเงาให้กับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของอาคารในแบบเดียวกับชายคาของบ้าน
ส่วนพื้นผิวและวัสดุของตัวอาคาร เลือกใช้การไล่เฉดสีหรือ gradient โทนสีเทาที่ดูโมเดิร์นและเข้ากับรสนิยมคนเมือง ใช้ผิวสัมผัสที่อบอุ่น และวัสดุกระเบื้องลายหินอ่อน สร้างผิวสัมผัส ลวดลาย และสีสันที่กลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ และพื้นที่สีเขียวที่ทางโครงการจัดสรรให้สำหรับลูกบ้าน
พื้นที่สีเขียวเหล่านี้เริ่มต้นตั้งแต่ส่วนทางเข้าชั้นล่างสุด ที่สร้างบรรยากาศสดชื่นเหมือนรีสอร์ตใจกลางกรุง ด้วยการจัดงานแลนด์สเคปและเลือกประเภทของพรรณไม้นานพันธุ์ เช่น พะยอม จิกน้ำ ต้นหลิว ต้อยติ่งฝรั่ง จากต้นไม้ต่างระนาบนำสายตาเชื่อมต่อสู่พื้นที่สระว่ายน้ำ เพิ่มความสดชื่นให้กับการใช้งานพื้นที่และสร้างความเป็นส่วนตัวขณะใช้งานสระว่ายน้ำไปในตัว
Spaces for Well-Balanced Lifestyle
ฟังก์ชั่นของพื้นที่่ส่วนกลางทุกส่วนถูกจัดสรรเพื่อสร้างสมดุลของคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกบ้านทั้งในเชิงฟังก์ชั่นและงานออกแบบ เริ่มจากพื้นที่ต้อนรับอย่างล็อบบี้ส่วนกลางที่เป็นเสมือนจุดเปลี่ยนผ่านจากความวุ่นวายนอกบ้านเข้าสู่ความสงบภายในบ้าน ด้วยการใช้งานดีไซน์ที่โปร่งโล่งเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกสร้างจุดร่วมกับธรรมชาติของโครงการ ผ่านวัสดุกระเบื้องลายไม้ที่ใช้กรุภายใน
ความเป็นธรรมชาติอย่างมีชีวิตชีวายังถูกสานต่อขึ้นมายังส่วนอื่นต่างๆ ของโครงการ อย่างในส่วนฟิตเนส เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างธรรมชาติที่ส่งเสริมให้การออกกำลังกายเกิดผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านทัศนวิสัยการมองเห็นไปยังต้นไม้นานาชนิดในสวนอันร่มรื่น และสัมผัสผ่านวัสดุธรรมชาติที่เลือกใช้หินและไม้เป็นวัสดุหลัก
และอีกพื้นที่จำเป็นสำหรับคนเมืองที่แอ็คทีฟกับการทำงานตลอดทั้งวันคือส่วน Co-Working Space ที่ใช้คอนเซ็ปต์ของความเป็น Third Place เข้ามาสร้างบรรยากาศสบายๆ สำหรับการทำงานในพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งยังคงใช้ประโยชน์จากธรรมชาติซึ่งเป็นใจความหลักของงานออกแบบเข้ามามีส่วนอย่างมากในงานดีไซน์ ผ่านวัสดุพื้นไม้ในห้องกรุกระจกเต็มบาน สำหรับทอดสายตาที่อ่อนล้าไปดูไม้ดอกนานาพันธุ์
Private Room for Your Relaxation
ความอบอุ่นและบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติยังคงอบอวนทั่วทั้งตัวอาคารจนเข้ามาถึงภายในห้องนอน ผลจากงานสถาปัตยกรรมที่ลดหลั่นระนาบของระเบียงและจำนวนยูนิตที่ไม่มาก ช่วยให้แสงธรรมชาติที่สาดส่องเข้ามาในตัวห้องสร้างความโปร่งโล่งใหักับการอยู่อาศัย โดยรูปแบบของห้องทั้ง 3 แบบ ได้แก่ 1 Bedroom, 2 Bedroom และ Duplex ต่างก็ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและงานดีไซน์แบบโมเดิร์นเรียบหรูอยู่สบาย
ห้องแบบ 1 ห้องนอน แม้จะเป็น type เล็กที่สุดแต่ก็โดดเด่นในเรื่องการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน ด้วยการใช้พาร์ทิชั่นสำหรับกั้น 3 ตอนร่วมกับฝ้าเพดานสูงที่โปร่งโล่ง ตกแต่งด้วยโทนโมเดิร์นแบบอบอุ่น จึงเปิดมุมมองของห้องได้อย่างสบาย
ถัดมาในแบบ 2 ห้องนอน ที่เน้นความหรูหราขึ้นมาอีกระดับกับการใช้วัสดุแวววาวอย่างอะลูมิเนียม โดยยังคงสัมผัสอันอบอุ่นของธรรมชาติจากโครงการและวัสดุที่เลือกใช้อย่างไม้ และหิน ร่วมกับความโปร่งเบาสบายด้วยการใช้ผ้าตกแต่ง โดยสร้างความแตกต่างของ mood & tone ระหว่างสองห้องนอน เพื่อเปิดประสบการณ์ของคำว่า New Luxury ในแบบของ SAVVI
และห้องไซส์ใหญ่สุดของ Duplex อยู่บนแนวความคิดที่ว่า Smart Living เพื่อสร้างพื้นที่ของบ้านที่เพียบพร้อมทั้งงานดีไซน์และความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี ข้อโดดเด่นของห้องนี้ คือหน้าต่างสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานที่เป็นผืนผนังบานใหญ่โอบล้อมตัวห้องเพื่อเปิดออกสู่สิ่งแวดล้อมภายนอกเข้ามาเป็นบรรยากาศให้กับห้องได้อย่างเต็มตาและหรูหราจากแสงไฟในเมือง ร่วมกับพื้นที่ระเบียงแบบยาวที่ให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติภายนอกขึ้นไปอีก ภายในใช้การจัดผังพื้นแบบ Open Space เชื่อมต่อทุกพื้นที่เข้าด้วยกันอย่างเป็นสัดส่วน จึงมีทั้งความโปร่งโล่งและความเป็นส่วนตัวภายในห้องของตัวเองได้อย่างเหนือระดับ
พบกับไลฟ์สไตล์ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวคุณที่ SAVVI PHAHOL 2 รายละเอียดเพิ่มเติมที่ 083-544-9466 หรือ เว็บไซต์ www.savvicondo.com/phahol2