ก่อนที่จะได้มาเยือนที่นี่ ผมหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ทมาคร่าวๆ เห็นภาพและบรรยากาศที่สวยงามมาแล้วครั้งหนึ่ง… แต่เที่ยบไม่ได้เลยกับการได้มาเห็นสถานที่แห่งนี้ด้วยสายตาตนเอง… มันสวยงามกว่าในรูปเยอะครับ
(ภาพวาดสีน้ำมันที่แสดงหมู่บ้านริมแม่น้ำเธมส์ ประเทศอังกฤษ)
โรงแรมแห่งนี้มีชื่อว่า Thames Valley Khaoyai Hotel มีแนวคิดในการออกแบบตัวโรงแรมทั้งหมดรวมไปถึงการตกแต่งโดยได้แรงบันดาลใจมาจากชุมชนชาวบ้านซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเธมส์ ในชนบทของประเทศอังกฤษ สถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษแบบชนบท (English Style Countryside) ถูกถอดออกมาและนำมาออกแบบเป็นอาคารต่างๆของโรงแรมได้อย่างลงตัว ตัวโรงแรมตั้งอยู่บนถนนธนรัตน์ สามารถเดินทางจากทางขึ้นอุทยานเขาใหญ่เพียง 5 นาที ก็จะถึงโรงแรมแห่งนี้ (คลิกที่นี่เพื่อดูแผ่นที่)(บรรยากาศพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า เบื้องหน้าคือกลุ่มห้องพักที่จัดวางผังอย่างลงตัวและมีแบ็คกราวน์เป็นทิวเขาสวยงาม)
รูปแบบการตกแต่งนั้นสอดคล้ายไปทั้งโครงการ ทั้งตัวอาคาร การตกแต่งภายใน และสวนโดยรอบ เริ่มจากทางเข้าของโรงแรม ออกแบบเป็สวนสไตล์อังกฤษเช่นกัน มีการสร้างกำแพงต้นไม้ปิดล้อมพื้นที่ด้านใน และเปิดให้เห็นเพียงทางเข้า สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ที่เข้ามายังโรงแรม เกิดความอยากรู้อยากเห็น และเชื้อชวนให้เขาไปยังด้านในอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเดินเข้าไปก็จะพบพื้นที่ปิดล้อมที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากๆ ไม่พุ่มสูงต่ำสลับกัน เผยให้เห็นตัวอาคารต้อนรับหรือล็อบบี้นั่นเอง
(สวนสไตล์อังกฤษนั้นเน้นที่เส้นสายเรียบง่าย เป็นระเบียบ และคงความสง่างามไว้อย่างไม่โดดเด่นจนเกินไป)(ภาพภายในล็อบบี้ที่ดูอบอุ่น เพิ่มความเป็นกันเองให้กับลูกค้า)
ตัวอาคารทั้งหมดตั้งใจให้ธรรมชาตินั้นเข้าไปเป็นส่วนเดียวกัน โดยที่ผนังนั้นมีการปลูกต้นตีนตุ๊กแก เพื่อให้เรื้อยขึ้นไปยังผนังของอาคาร เกือบทุกอาคารจะมีรายละเอียดเข่นเดียวกันนี้ ซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
ถัดเข้ามาจะเป็นห้องอาหารชื่อ THE CASTLE RESTAURANT ร้านอาหารสไตล์อังกฤษที่มีเมนูหลากหลายให้ได้เลือกทาน ตามชื่อของร้านนี้ การออกแบบจึงมีลักษณะคล้ายกับปราสาทที่มีฝ้าสูง และสามารถมองเห็นตัวร้านอาหารนี้ได้จากถนนด้านหน้าโรงแรม เพราะที่นี่เปิดให้ผู้ที่ไม่ได้พักที่นี่สามารถเช้ามารับประทานอาหารได้ด้วย
เมื่อมองออกไปจากหน้าต่าง ก็จะเห็นภาพรวมของโครงการทั้งหมดจากห้องอาหารนี้ ต้นไม้สีเขียวสลับกับพื้นทางเดินที่เป็นธรรมชาติดูสดชื่น ทำให้ดูเหมือนเรากำลังนั่งอยู่ในหมู่บ้านโบราณของประเทศอังกฤษจริงๆเลยทีเดียว
การตกแต่งภายในใช้วัสดุที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผนังหินเทียมนี้ ก็ดูเหมือนหินมากๆ อีกทั้งยังโทนสีของการตกแต่งภายใน ยังคุมโทนได้เป็นอย่างดี สีไม้ซีดๆที่เกิดจากการขัดสีออก เฟอร์นิเจอร์สีเบจ ทำให้ห้องอาหารนี้ดูอบอุ่นน่านั่ง
รูปแบบหนึ่งของสถาปัตยกรรมสไตล์นี้คือการมีความเป็นระเบียบของช่องเปิด (ประตู – หน้าต่าง) ส่วนใหญ่จะเป็นช่องเปิดรูปทรงที่แคบและสูง แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งกระด้างด้วยวัสดุที่หลากหลาย ผนังภายนอกใช้วัสดุหินภูเขาจริง และอิฐมอญก่อแบบโชว์แนว ดูตัดกันอย่างลงตัว
ถัดเข้ามาเป็นส่วนของห้องพัก ตัวห้องพักจะเกาะเกี่ยวไปตามขอบของพื้นที่ เพื่อให้พื้นที่ตรงกลางนั้นเป็นคลองที่วิ่งยาวตั้งแต่หน้าโครงการไปจนถึงห้องพักหลังสุดท้าย โดยปกติแล้วพื้นที่ส่วนนี้จะให้ผู้ที่ไม่ได้พักสามารถเดินเข้ามาถ่ายรูปได้ แต่มีระยะเวลาจำกัด เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ที่พักที่นี่
โชคดีที่สมัยนี้กล้องถ่ายรูปเป็นแบบดิจิตอลกันหมดแล้ว ไม่งั้นคงจะเปลืองฟิลม์มากๆ เพราะไม่ว่ามุมให้ เราก็อดที่จะยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายไม่ได้
ห้องพักแบบ Deluxe Highgarden ที่ได้พักคืนนี้ เป็นห้องพักวิวสวน เพียงเปิดหน้าต่างเราก็จะพบกับสวนสวยและคลองน้ำใสที่เบื้องหน้า แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เป็นส่วนตัว เพราะที่นี่ได้ออกแบบพื้นที่โดยรอบอาคารเป็นต้นไม้เตี้ยๆ เพื่อกันและบอกขอบเขตของอาคารไม่ให้ผู้อื่นสามารถเดินผ่านได้ ผู้ที่อยู่ในห้องจึงรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวตลอดเวลา
ห้องพักแบบ Pool Villa บ้านพักสไตล์ชนบทของอังกฤษเช่นเดิม พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวโอบล้อมด้วยระเบียงนั่งเล่นเอาท์ดอร์ สำหรับผู้ที่มากันมากกว่า 2 ท่าน หรือกลุ่มเพื่อนเล็กๆ หรือจะมากับคนรู้ใจก็เป็นส่วนตัวและมีความพิเศษมากๆครับ อาคารส่วนนี้ออกแบบมาได้ดีครับ โดยทางเข้าตัวบ้านนั้นดูธรรมดา ไม่มีอะไร แต่พอเดินเข้าไปภายใน Space ก็ถูกเปิดเผยด้วยพื้นที่ระเบียงใหญ่และสระว่ายน้ำ อบอุ่นและน่าค้นหาไปในเวลาเดียวกัน
ภายในห้องพักแบบ Pool Villa ตกแต่งฝ้าเพดานได้น่ารักมาก ด้วยการใช้ไม้ระแนงตีเป็นฝ้า เซาะร่องเล็กน้อย สลับกับไม้จันทันที่ตกแต่งให้ดูไม่เรียบโล่งเกินไป ห้องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก ด้วยเตียงเหล็กสไตล์วินเทจและของตกแต่งเล็กๆน้อยๆ ที่ดูเข้ากันดี
ห้องแบบ Deluxe Pond ลักษณะคล้ายห้อง Deluxe Highgarden แต่แบบนี้มีอ่างสำหรับอาบน้ำเพิ่มขึ้นมา ซึ่งการออกแบบข้างในก็จะต่างกันเล็กน้อย
ทุกห้องจะมีระเบียงเล็กๆแบบนี้ เพื่อให้ได้ออกมาสัมผัสบรรยากาศดีๆที่เขาใหญ่นี้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ห้องแบบสุดท้ายที่เราได้เข้าไปชมคือ ห้องแบบ Duplex Pool Villa ซึ่งสามารถเข้าพักได้จำนวนมากที่สุด เพราะตัวอาคารมี 2 ชั้น มีพื้นที่นั่งเล่น pantry เล็กๆ ส่วนทานอาหาร และห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
ห้องนอนใหญ่ที่ชั้น 2 นั้นประกอบด้วย 2 เตียงนอนใหญ่ การออกแบบฝ้าเพดานให้ดอียงตามความลาดของหลังคา ทำให้ภายในไม่อึดอัด และสามารถรับรู้ถึงรูปทรงของหลังคาและอาคารได้เป็นอย่างดี
ห้องนั่งเล่นฝ้าสูง 2 ชั้น เป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับระเบียงทางเดินชั้น 2 ได้เป็นอย่างดี
ขนมชื่อว่า “มิลเฟย” เห็นหน้าตาแบบนี้ กรอบแร่อยมากๆครับ
Honey Toast ตัวไอศกรีมอร่อยมากๆ ยิ่งทานคู่กับขนมปังชุ่มน้ำเชื่อมแล้ว จานนี้ก็หมดเกลี้ยงในเวลาไม่นานครับ
ตัวนี้คือ สโคน ที่มีให้เลือกแบบธรรมดา และมีลูกเกด อร่อยทั้งสองแบบครับ แต่ต้องทานกับเนยหรือแยมนะครับ จะยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก
ที่นี่ยังมีห้องประชุมขนาดกลางจำนวน 2 ห้องด้วยครับ นอกจากพื้นที่ที่เหมาะสมแล้ว ความสวยงามของห้องประชุมก็เป็นจุดที่สำคัญของการเลือกห้องประชุมสักที่ครับ ซึ่งที่นี่สวยงามและมีทุกอย่างครบจริงๆ
สำหรับคนที่ชอบการท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติเป็นเพื่อน ในท่ามกลางบรรยากาศการออกแบบตกแต่งที่ดี ที่นี่น่าจะเป็นคำตอบที่ดีมากที่หนึ่งครับ Thames Valley Khaoyai