OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Design Makes A Better Life.

Design Makes A Better Life.

เทศกาลศิลปะสร้างสรรค์ย่านเมืองเก่า “สามแพร่ง facestreet”

1

งาน Event ตลาดเฉพาะกิจน้อยใหญ่ในกรุงเทพฯ ผุดขึ้นมาให้คนเมืองกรุงเลือกไปเที่ยวชมกันแทบทุกอาทิตย์ ทั้งแบบกลางแจ้ง ในร่ม ขายของออแกนิคสีเขียว ของวินเทจ ออกบูทจากร้านค้าอินเตอร์เน็ตตลาดยุคใหม่ของวัยรุ่นหนุ่มสาวทันสมัย แต่งตัวชิคๆ ถ่ายรุปเช็คอินเก๋ๆ รอปุ่มกดไลค์จากเพื่อนออนไลน์ คงมีไม่บ่อยนักที่ตลาดนัดเทศกาลแบบนี้จะถูกจัดโดยชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ในชุมชนเมืองเก่าที่มีประวัติยาวนานนับร้อยปี ภายใต้บรรยากาศแบบเป็นมิตรของคนเจ้าถิ่นและผู้มาเยือนที่พูดคุยกันได้สนุกสนาน จนเราเดินทางไปเจอเข้ากับ “สามแพร่ง facestreet”

ชุมชนเก่าสามแพร่ง

2 3

(ภาพจาก http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000107420)

สามแพร่ง (แพร่ง แปลว่า ทางแยกบนบก,แตกออก) คือ ชุมชนเก่าตั้งแต่สมัย ร. 5 เป็นย่านเก่าที่เคยเป็นวังเก่ามาก่อน ประกอบด้วย 3 วัง คือ

– แพร่งภูธร อดีตเคยเป็นวังของกรมหมื่นภูธเรศธำรงค์ศักดิ์

– แพร่งนรา  อดีตเคยเป็นวังของกรมพระนราธิปพันธ์พงศ์

– แพร่งสรรพสาตร์ เป็นวังของกรมหลวงสรรพสาสตร์ศุภกิจ ต่อมาได้กลายเป็นที่พักของข้าราชบริพานและประชาชนมาจนปัจจุบัน

ในอดีตย่านสามแพร่ง ถือเป็นย่านค้าขายเก่าที่เคยรุ่งเรืองเทียบระดับได้กับสยามสแควร์ในปัจจุบันเลยทีเดียว  มีทั้งร้านค้ารายใหญ่รายย่อย ร้านอาหาร แหล่งรวมตัวของเจ้านายหรือคนชนชั้นสูงจะมาช้อปปิ้งสินค้าดีๆ เที่ยวเล่นพูดคุยกัน ตั้งอยู่ใกล้กับหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรมราชการต่างๆ  แต่เมื่อผ่านไปสู่ยุคสมัยใหม่ หน่วยงานราชการต่างๆ ต้องขยับขยายย้ายออกนอกพื้นที่  ทำเลความเจริญของกรุงเทพเปลี่ยนตำแหน่งไป จึงทำให้ย่านสามแพร่งค่อยๆ ซบเซาเงียบเหงาลงตามเวลาลงไป

ด้วยความเป็นชุมชนย่านเมืองเก่าที่มีเรื่องเล่ามายาวนาน คงน่าเสียดายถ้าจะปล่อยให้สถาปัตยกรรมจากยุคสมัยประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของประเทศและวิถีชีวิตเก่าแก่เหล่านี้จางหายไปในความทรงจำของผู้คน ชาวเมืองพื้นถิ่นและหน่วยงานที่เห็นความสำคัญจึงอยากจึงร่วมมือกันสร้างกิจกรรมขึ้นมาเพื่อการฟื้นฟูสามแพร่งให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง บนพื้นที่กิจกรรมศิลปะแบบร่วมสมัย การปรับจูนคลื่นความถี่การสื่อสารให้ตรงกับคลื่นตัวรับของคนยุคใหม่ เยาวชน  และบุคคลทั่วไปให้เห็นความสำคัญมากขึ้น

ย่านศิลปะของคนทุกวัย

4

จากความพยายามที่อยากฟื้นฟูย่านเมืองเก่าแห่งนี้ที่ค่อยๆฟูมฟักมาร่วมนับ 10 ปี เริ่มต้นที่กิจกรรมขนาย่อมกับพื้นที่สร้างสรรค์บ้านในฝันสัญจร ที่แพร่งภูธรก่อน ในปีพ.ศ. 2548 ค่อยๆขยายครอบคลุมจนครบทั้งสามแพร่ง ในปีพ.ศ.2556 มาเป็นเทศกาลศิลปะชุมชน สามแพร่ง facestreet ที่ได้รับการต้อนรับด้วยดีจากชาวสามแพร่งเองและชุมชนโดยรอบ พลิกฟื้นคืนชีวิตชีวาให้กับย่านเมืองเก่าของกรุงเทพมหานครให้เป็นย่านศิลปะสำหรับคนรุ่นใหม่ คนทุกวัยในครอบครัวและชุมชน

5

มาถึงปี 2558 นี้กับกิจกรรม สามแพร่ง facestreet ที่จัดต่อเนื่องกันมาแล้วเป็นปีที่ 3 แล้ว ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 21-22 พฤศจิกายน 2558 บนการจับมือร่วมกันระหว่าง ชุมชนสามแพร่ง,เยาวชนอาสารักยิ้ม สโมสรพื้นที่นี้..ดีจัง และกลุ่มดินสอสี ภายใต้การสนับสนุนของสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อจัดเทศกาลศิลปะครั้งนี้ชื่อ “เทศกาลศิลปะชุมชน Hi กันและกัน Colorful สามแพร่ง facestreet”

สีสันและคุณค่าของการแบ่งปัน

6

โดยมีธีมหลักของงานครั้งนี้ คือ สีสันของสามแพร่ง และ คุณค่าของการให้และแบ่งปัน พร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ จากบาหลี ประเทศอินโดนิเซีย, ปีนัง ประเทศมาเลเซีย และ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทั้ง 3 ประเทศก็ได้ขนเอาชุดการแสดงสุดพิเศษมาให้ได้ชมกันบนพื้นที่ทั้ง 3 แพร่ง อาทิ ในย่านแพร่งสรรพศาสตร์ บริเวณหน้าประตูวังสรรพศาสตร์จะได้พบกับการแสดงชุดพิเศษข้ามขอบฟ้า นาฏศิลป์ดนตรีจากศิลปินบาหลี I Wayan Sira พร้อมกับวงออร์เคสตราจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และวงคลาสสิก จีบ คนกรุงเทพฯ

7

พูดถึงเรื่องของศิลปะ ก็คงจะขาดศิลปินคนไทยที่จะมาร่วมแสดงผลงานหลากหลายแนวไปเสียไม่ได้ การจัดแสดงงานสาธารณศิลป์จาก 3 ศิลปินชาวไทย  ได้แก่ วิจิตร อภิชาติเกรียงไกร กับผลงานสาธารณศิลป์ Printing Art Show, สุธี คุณาวิชยานนท์ และผลงานล่าสุดในชื่อ DreanFlagTory และศิลปะทราย Street Art by Sand จาก ชลิต นาคพะวัน

ร่วมรับชมและลงมือทำ

89

ในงานคุณยังจะได้พบกับกิจกรรมน่ารักๆมากมาย รับชมมหรสพพื้นบ้านประยุกต์ ละครชาตรีแก้วหน้าหมา และ ลิเกกระทงรักอลเวง สีสันความครื้นเครงแบบชุมชน นำโดย ประดิษฐ์ ประสาททอง ศิลปินรางวัลศิลปาธร ที่บริเวณสี่กั๊กเสาชิงช้า ,ละครใบ้คนหน้าขาว ประชันกับ Babymime Show, ละครหุ่นคลองบางหลวง ประทะ ละครหุ่นจีนฮกเกี้ยนโดยคณะ Ombak Ombak จากปีนัง ,นิทานดนตรีคิดแจ่ม พบกับละครสำหรับเด็กและไม่เด็ก จากกลุ่มมะขามป้อม มังกรไฟไม่เรียนหนังสือ และสามารถลงมือสร้างสรรค์ผลงานในกิจกรรม workshop ซุ้มของเล่นทำมือ Wawawarisan ณ ลานกลางแจ้ง ได้ของเล่นที่ระลึกจากฝีมือตัวเองกลับบ้านไปด้วย

10

ทั้งยังเป็นแหล่งรวบรวมศิลปะของดีของดังจากทั่วประเทศมาให้คนกรุงมาสัมผัสในที่เดียว  ไม่ว่าจะเป็น มัดย้อมบาติก จากดอกไม้ยิ้มยะลา ระบายสีนกเงือกจากป่าฮาลาบาลา กลุ่มยังยิ้ม อำเภอแว้ง นราธิวาส เพ้นท์หน้ามาหานะเธอ จากกลุ่มลูกขุนน้ำคีรีวง นครศรีธรรมราช การแสดงมโนราห์หน้าบ้าน จากพัทลุงยิ้ม กิ่งไม้สีสัน วาดเส้นธรรมชาติ จากดีจังสุรินทร์เหลา woodcut ใบไม้จากดีอีหลีอีสานบ้านเฮา กิจกรรมศิลปะกับธรรมชาติจากเขาใหญ่ดีจัง มีทั้ง ตาข่ายดักฝัน กลุ่มรักษ์เขาใหญ่ ศิลปะกระบะทราย จาก กลุ่มไม้ขีดไฟ แต้มสีรักษ์สัตว์ป่าจากกลุ่มรักษ์เขาใหญ่ และอื่นๆอีกมากมาย จนเราเล่าให้ฟังทั้งหมดได้ไม่ครบถ้วนจริงๆ ถ้าคุณไม่ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง

11 12

ใครที่สนใจก็สามารถไปร่วมงานกันได้วันนี้อีก 1วัน  งานนี้เข้าได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย  เริ่มกิจกรรมตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์กำลังลาลับ  5 โมงเย็นเป็นต้นไปนะครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/sampraengfacestreet

หรือ โทร. 0-2623-2838-9  (จอดรถฟรีที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมโชว์ภาพโปสเตอร์งานไปแสดงกับรปภ.หรือ ถนนโดยรอบ)

ภาพประกอบจาก https://web.facebook.com/sampraengfacestreet/photos_stream