ออฟฟิศศิลปะในบรรยากาศสุดธรรมชาติ สิ่งปลูกสร้างที่ขอไม่ตัดต้นไม้เดิมเลยแม้แต่ต้นเดียว
Naiipa Art Complex
Architect : Stu/D/O Architects
Location : สุขุมวิท 46 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพ ฯ
Photo : Dsign Something
“อยากเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเห็นว่าการทำโครงการอะไรก็แล้วแต่ มันไม่จำเป็นต้องตัดต้นไม้ก่อน เพราะที่ดินในกรุงเทพที่มีต้นไม้ใหญ่เยอะแบบนี้ก็เหลืออยู่น้อยเต็มทีแล้ว”
ชายหนุ่มคนหนึ่งบอกกับทีมงานด้วยสายตามุ่งมั่น เมื่อเราถามถึงที่มาที่ไปของโครงการพื้นที่สำนักงานให้เช่ากลางต้นไม้ใหญ่ใจกลางเมือง พื้นที่ office space ที่ใส่ใจกับบริบทแวดล้อมเดิมถึงขนาดไม่ยอมตัดต้นไม้ใหญ่ในที่ดินเลยซักต้นเดียว แม้เอาเข้าจริง ๆ แนวความคิดการรักษาต้นไม้เดิมทั้งหมดเอาไว้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการออกแบบสากล มีตัวอย่างงานสถาปัตยกรรมต่างประเทศพิสูจน์ผลลัพธ์ให้เห็นเป็นตัวอย่างกันมาบ้างแล้ว แต่การที่ไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะเป็นเรื่องง่าย ผังอาคารและระบบการก่อสร้างที่จะต้องหลบหลีก เปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างนอบน้อมต่อการมีของต้นไม้ที่มีอยู่เดิม และน่ายากยิ่งกว่าที่เราจะเจอเจ้าของโครงการ ทีมงานออกแบบ ทีมก่อสร้าง ทุกๆฝ่ายที่เข้าใจจุดประสงค์ร่วมกันซึ่งกันจนโครงการเสร็จสมบูรณ์ได้ถึงเพียงนี้ ….
บทสนทนาของเรายังคงดำเนินต่อไป ในห้องที่เงียบสงบจนได้ยินเสียงกิ่งไม้โอนไหว ที่โครงการ Naiipa Art Complex
คุณศาณ์ปัฏ รักษ์ขิตวัน Co-Founder โครงการในป่า
Art Community พื้นที่ทำงานด้านศิลปะ
ก่อนจะมีต้นไม้ใหญ่แตกใบเขียวขจี ที่ตรงนี้คือแปลงที่ดินเก่าที่ทวดของคุณศาณ์ปัฏ รักษ์ขิตวัน พายเรือมาซื้อไว้ตั้งแต่สมัยสุขุมวิทยังเป็นลำคลอง ตกทอดมาถึงรุ่นตายายที่ชอบปลูกต้นไม้เอาไว้จำนวนมาก หน่อต้นกล้าในวันนั้นก็เติบโตขึ้นมาเป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาถึงรุ่นลูกหลาน มาถึงช่วง 2-3 ปีหลังกลับมาจากประเทศ ทางครอบครัวมีแผนอยากจะทำออฟฟิศให้สมาชิกเครือญาติมาทำงานอยู่บนที่ดินแปลงเดียวกัน
บริษัทหุ้นส่วนเครือญาติทั้ง 3 ประกอบด้วยสตูดิโอออกแบบกราฟฟิค-โลโก้ ,การแสดง-การเต้น,ดนตรี-ห้องอัดเสียง เจ้าของบริษัททั้ง 3 ที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ด้านศิลปะจึงมาประชุมกันว่า ในเมื่ออยากสร้างสถานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมดีๆ ที่มีศักยภาพด้านสิ่งแวดล้อมและการคมนาคม ติดสถานีรถไฟฟ้า มีผืนป่าสีเขียวเป็นของตัวเอง ก็น่าจะสร้างเป็นคอมมูนิตี้ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนทำงานด้านอาร์ท (Art) ให้เข้ามาเช่าพื้นที่สำนักงาน มีร้านกาแฟ ร้านอาการ แกลเลอรี่แสดงงานศิลปะไว้ให้บริการ เป็นพื้นที่ที่เปิดให้ผู้คนเข้ามาแชร์บรรยากาศการทำงานกลางต้นไม้ใหญ่ไปด้วยกัน
แทรกพื้นที่อาคารในช่องว่างระหว่างต้นไม้
อย่างที่เราเคยบอกไว้ ความต้องการที่จะเก็บต้นไม้เดิมเอาไว้ทั้งหมดแม้จะไม่ถือเรื่องใหม่ แต่ก็ไม่นับเป็นเรื่องง่าย ต้นทุนค่าก่อสร้างและการดูแลรักษาก็ยากขึ้น โชคดีที่ได้ “ครูต้อ ธราดล ทันด่วน” หรือที่คนรักต้นไม้เรียกว่า “ครูต้นไม้” รับหน้าที่เป็นวิศวกรดูแลเรื่องโครงสร้างกับต้นไม้ ให้คำปรึกาาว่าทำยังไงต้นไม้ถึงจะอยู่ได้ ต้องตัดกิ่ง ตัดรากยังไงให้ต้นไม้ยังมีชีวิตอยู่ เจาะเสาตรงไหนหรือต้องระวังการเทปูนยังไงไม่ให้โดนราก ความใส่ใจอย่างจริงจังทำให้ทั้งโครงการเทฐานรากให้สูงขึ้นมาจากพื้นดิน 80 ซม. เพื่อไม่ให้ทับรากไม้
ด้วยคุณค่าทางจิตใจเกี่ยวกับมรดกที่ดินและต้นไม้ใหญ่ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ทำให้การออกแบบสถาปัตยกรรมจำต้องอยู่ร่วมกับต้นไม้ให้ได้อย่างกลมกลืน ดีไซเนอร์ต้องมีความเข้าใจและให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม ซึ่งหน้าที่การออกแบบโครงการในป่าตกเป็นของทีมออกแบบ Stu/D/O Architects เข้ามาลงสำรวจตำแหน่งของต้นไม้เดิม หาพื้นที่ที่สร้างอาคารได้โดยไม่รบกวนต้นไม้ ใช้โครงสร้างอาคารแบบคานคอนกรีตและทางเดินแผ่นไม้แทรกซึมพื้นที่สถาปัตยกรรมในช่องว่างระหว่างต้นไม้ที่เหลืออยู่ เป็นก้อนอาคารทรงเลขาคณิตที่ลื่นไหล แตกแขนงหลบหลีกไปตามทิศทางของกิ่งก้าน มีสะพานทางเดินเปิดโล่งที่พาผู้ใช้งานเข้าไปใกล้ชิดธรรมชาติได้อย่างแนบเนียน
เลือกใช้โครงสร้างมาทำสะพานทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร ช่วยเรื่องความแข็งแรง โปร่งเบา ควบคุมรูปทรง ทิศทางและความแข็งแรงได้ง่าย แถมยังไม่ทิ้งคราบน้ำปูนที่เป็นอันตรายต่อต้นไม้ด้วย
พื้นที่โครงการเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีส่วนพื้นที่บริการร้านอาหาร คาเฟ่ (library café) อยู่ด้านล่างเปิดให้บริการคนทั่วไป ส่วนด้านบนเป็นพื้นที่สำนักงานให้เช่าที่แบ่งความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เว้นที่ว่างไว้ส่วนใหญ่ไว้ให้ป็นสวนต้นไม้สีเชียว ซึ่งคิดสัดส่วนพื้นที่ก่อสร้างอาคารทั้งหมดต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของที่ดินเสียอีก
เทคนิคที่ทำให้ก้อนอาคารเลือนหายกลายหนึ่งเดียวกับธรรมชาติมากขึ้นก็คือ การใช้แผ่นกระจกสะท้อน (Reflective Glass) ช่วยลวงตาให้ภาพกิ่งก้านใบไม้สีเขียวฉายทับลงผนังอาคาร ขยายขอบเขตมุมมองพื้นที่สีเขียวออกไปกว้างขวางมากขึ้น รวมทั้งการใช้ผนังกระจกซ้อน 2 ชั้นพร้อมกับกระจกแบบฝ้า (Translucent Glass) ที่จะช่วยลดความร้อนบางส่วนและบดบังมุมมอง สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานในออฟฟิศให้เช่าของโครงการ
คอร์ทต้นไม้ที่แอบหยอดเอาไว้ในช่องว่างตามจุดต่างๆ ของอาคาร และสนามหญ้าหญ้าเทียมที่เปิดให้เช่าทำกิจกรรมบนชั้นดาดฟ้า ถูกสร้างเอาไว้เป็นพื้นที่กลางแจ้งสำหรับการออกมาผ่อนคลายในพื้นที่สำนักงานให้เช่า
ได้มาเห็นความร่มรื่นจากเมล็ดพันธุ์ความใส่ใจต่อบริบทสภาพแวดล้อมเดิมทางธรรมชาติที่เติบโตขึ้นในโครงการ Naiipa Art Complex ก็ทำให้คนเมืองอย่างเราคิดหวังอยากจะให้โครงการสถาปัตยกรรมธรรมชาติในพื้นที่สีเขียวแบบนี้แตกหน่อกิ่งก้านออกไปในพื้นที่เขตต่างๆ ของกรุงเทพอีกนะครับ
ขอขอบคุณ Naiipa Art Complex
สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติมได้ที่