ร้านอาหารบรรยากาศธรรมชาติ เปรียบดั่งโอเอซิสสีเขียวท่ามกลางทะเลทรายคอนกรีต
A Little While
Location : 4/21 ถนนประเสริฐมนูกิจ , แขวงจระเข้บัว, เขตลาดพร้าว , กรุงเทพฯ 10230
Owner : คุณศยามล เนตรประภา และครอบครัว
Landscape : คุณวิทย์-ศิริวิทย์ ริ้วบํารุง จาก Little Tree Landscape
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จัก ”ร้านต้นโพธิ์” ร้านอาหารไทยรสถึง ชื่อดังย่านท่าพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวคุณไปป์(เจ้าของร้าน) ที่ปิดตัวไปได้พักใหญ่ๆ จนกระทั่งวันนี้ บรรดาลูกๆก็คิดว่าไหนๆเราก็ชอบทานอาหารฝีมือแม่กัน ทำไมเราไม่เปิดร้านที่มีบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนได้ทานข้าวที่บ้านขึ้นมาล่ะ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้านต้นโพธิ์ภายใต้แบรนด์ใหม่ชื่อ A Little While ที่ตั้งอยู่เรียบถนนประเสริฐมนูกิจ ในบรรยากาศธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มละมุนตา เปรียบดั่งโอเอซิสใจกลางทะเลทรายคอนกรีตอันแสนวุ่นวาย
จากต้นโพธิ์สู่ A Little While
ก่อนที่จะมาเป็นร้าน A Little While อย่างที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้ ร้านนี้เกิดจากการสังเกตุพฤติกรรมคนกรุงเทพ ที่พบว่าคนส่วนใหญ่แม้จะอาศัยอยู่ในเมือง แต่ลึกๆแล้วก็โหยหาธรรมชาติด้วยกันทั้งนั้น จากข้อสงสัยดังกล่าวจึงกลายมาเป็นตัวช่วยตัดสินใจในการเปิดร้านขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเติมเต็มความสุขที่ขาดหายไปของคนกรุงเทพ โดยได้ฝีมือการจัดสวนของพี่วิทย์ จาก Little Tree Landscape ซึ่งเป็นญาติคุณไปป์ มาช่วยเนรมิตพื้นที่แห้งแล้งแห่งนี้ให้กลายเป็นโอเอซิสกลางเมืองที่อบอวลไปด้วยแมกไม้สีเขียว ในสไตล์สวนอังกฤษแบบน่ารักๆ
อยากจะขอได้มั้ย หยุดเวลานี้ไว้ อยู่ตรงนี้ไปนานนาน
คุณไปป์เล่าถึงที่มาของชื่อร้านว่า ในเมื่อเรามีวัตถุชั้นเลิศคือรสมือของคุณแม่ซึ่งเป็นแม่ครัวมือฉมังร่วมกับพี่บุ๋ม พี่สาวคุณไปป์ ที่จะมาช่วยกันครีเอทเมนูอาหารสูตรดั้งเดิมและอาหารฟิวชั่นรสจัดจ้าน ให้เราเลือกอิ่มพุงกลมได้ตามใจชอบ แล้วทำไมคุณจะไม่หยุดพักสักนิดเพื่อลิ้มลองอาหารเหล่านี้สักหน่อยล่ะ จากประโยคนี้จึงเป็นที่มาของชื่อร้านแบบเต็มๆว่า Why don’t you stop by for “A LITTLE WHILE” และยังเสริมอีกว่าจริงๆแล้วชื่อนี้พี่วิทย์เป็นคนตั้งให้
โลกใบใหม่หลังม่านต้นไม้
ตัวร้านอาหารจะแบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก 3 ห้องย่อย เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการในแต่ละครั้ง ได้มีสิทธิเลือกนั่งทานอาหารในห้องที่มีบรรยากาศแตกต่างกัน ซึ่งแต่ละห้องล้วนมีลักษณะเป็นโครงสร้างกระจกใส โปร่งโล่ง เพื่อนำแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาภายใน และยังทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับสวนภายนอก
พี่วิทย์ตกแต่งโถงทางเข้าร้านโดยนำต้นเฟิน และต้นโบตั๋นมาห้อยเป็นม่านต้นไม้ตลอดแนวหลังคา skylight เพื่อสร้างความร่มรื่นตลอดแนวทางเดิน
White room
กระท่อมสีขาว ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของร้าน ตกแต่งสไตล์วินเทจ ตัวอาคารเกิดจากการก่ออิฐฉาบปูนแบบดิบๆและทาสีขาวทั้งห้องตามชื่อห้อง ภายในตกแต่งสไตล์วินเทจ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลธรรมชาติ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดไม่มากนัก จึงประดับด้วยต้นแคตตัสพันธุ์หูกระต่าย และของกระจุกกระจิกอย่างดอกไม้แห้ง ให้ได้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนทานอาหารที่บ้าน
Black room
ห้องสีดำ เป็นห้องที่มีระนาบกระจกสูง 2 ชั้น ตั้งอยู่ตรงกลางของร้าน ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คลุมโทนด้วยสีขาวและดำ โดยเลือกแซมสีดำบริเวณวงกบหน้าต่าง และบริเวณเฟอร์นิเจอร์อย่างเก้าอี้ทรงไดแรคเตอร์ที่นำผ้าแคนวาสสีดำทำเป็นที่นั่งและผนักพิงหลัง นอกจากนั้นยังตกแต่งด้วยหัวสัตว์เซรามิก เพื่อให้ได้บรรยากาศคาเฟ่ เท่ๆ ดูแตกต่างจากห้องขาว (white room)
Red room
เรือนกระจกสีแดงที่แยกตัวเป็นเอกเทศตั้งอยู่ด้านในสุดของร้าน หากไม่สังเกตุดีๆก็จะไม่รู้ว่ามีห้องนี้อยู่ เพราะรายล้อมไปด้วยพรรณไม้ที่ชอบแดดนานาพันธุ์ ในบรรดาห้องทั้งหมด ห้องนี้เป็นห้องเดียวที่สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเรือนกระจก เพราะนอกจากกระจกใสที่เป็นระนาบด้านข้างแล้ว ยังมีระนาบด้านบนอย่างหลังคา skylight อีกด้วย ทำให้ได้รับแสงแดดมากกว่าห้องอื่นๆ ภายในตกแต่งด้วยอิฐมอญและมีวงกบหน้าต่างสีแดงสดให้สมกับชื่อห้อง ใช้เฟอร์นิเจอร์หวาย และนำรูปภาพต้นไม้มาตกแต่งบริเวณผนัง เพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเองเหมือนกำลังทานอาหารท่ามกลางหมู่แมกไม้สีเขียวชอุ่ม อาทิ ต้นส้ม ต้นเตยทะเล ต้นแคตตัส
ส่วนใครที่มาในตอนเย็น แนะนำให้เลือกนั่งบริเวณโซนเอ้าท์ดอร์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีบ่อน้ำ และต้นไม้สีเขียวหลากหลายชนิดโอบล้อมโดยรอบ
Traditional Thai Taste X Fusion
“สลัด A LITTLE while”
ผักสลัดและดอกอัญชันสดๆ เสริฟพร้อมหมูสามชั้นทอดกรอบๆแบบไร้มันสูตรพิเศษของทางร้าน ทานคู่กับน้ำสลัดครีมแจ่ว รสจัดจ้าน
“สปาเก็ตตี้ไล้อั่ว”
เมื่อเส้นสปาเก็ตตี้ที่มีจุดเริ่มต้นจากอิตาลี มาเจอกับไส้อั่วอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ จึงเกิดเป็นเมนูฟิวชั่นข้ามทวีป หน้าตาแปลกใหม่ แต่ยังคงคอนเสปต์ความแซ่บแบบอาหารไทยโบราณไว้อย่างเดิม
“บ๊วยน้ำผึ้งโซดา”
สูตรดั้งเดิมจากร้าน Little Tree ที่นครปฐม บ๊วยหวานจากเชียงใหม่ ผสมกับโซดาและน้ำผึ้งคุณภาพเยี่ยม เติมเต็มความสดชื่นด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวแบบพอดีคำ
หากใครยังเลือกไม่ได้ว่าจะแวะฝากท้องมื้อต่อไปที่ไหนดี ก็สามารถแวะไปร้าน A Little While ได้นะคะ ทางร้านมีเมนูอาหารไทยโบราณและอาหารฟิวชั่นรสจัดจ้านไว้คอยบริการ ในบรรยากาศสบายๆ กลางสวนสไตล์อังกฤษ และที่สำคัญกว่านั้นช่วงนี้มีโปรโมชั่นลด 10% เมื่อทานครบ 500 บาทขึ้นไป เพียงโชว์รูปด้านล่างนี้กับทางร้าน ตั้งแต่วันนี้-31 ตุลาคมนี้เท่านั้นนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก A Little While