OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Wie Immer…คาเฟ่สีขาวของคนรักแสงสว่าง

ชุบชีวิตบ้านเก่าหลังน้อย ให้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ที่มากไปด้วยแสงสว่างและฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย

img_2641

Wie Immer

Location : ซอยทองหล่อ 14 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

Architect & Owner : คุณหง-วิรัลพัชร นารานิติธรรม

หากพูดถึงการใช้พื้นที่อย่างจำกัดของคนเมือง นอกจากพื้นที่ลอยฟ้าอย่างคอนโดแล้ว ก็คงจะมีตึกแถวอาคารพาณิชย์นี่ล่ะ ที่ดูใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าและสมเหตุสมผลมากที่สุด เพราะสามารถใช้งานได้มากกว่า 1 ฟังก์ชั่นในพื้นที่เดียวกัน เช่นเดียวกับร้าน Wie Immer ที่เราจะพาคุณผู้อ่านไปชมในวันนี้ ก็เกิดจากการนำตึกแถว 1 คูหา มารีโนเวตใหม่ให้กลายเป็นพื้นที่มัลติฟังก์ชั่นที่ไฉไลกว่าเดิม

img_2652

Wie Immer  คือ ชื่อคาเฟ่สีขาวไซส์มินิและโฮมสเตย์แสนอบอุ่น ที่ซ่อนตัวอยู่ (ลึกๆ) เกือบสุดซอยทองหล่อ 14 ซึ่งเกิดจากการนำบ้านเก่าที่มีเรื่องราวความทรงจำดีๆในวัยเด็กของ คุณหง-วิรัลพัชร นารานิติธรรม อดีตนักเรียนสถาปัตย์ ผู้ซึ่งปัจจุบันได้ผันตัวไปเป็น Lighting Designer มาเรียงร้อยใหม่ ผ่านดีไซน์ที่เรียบง่ายแฝงความอบอุ่น และรวมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายเข้ามาไว้ในที่เดียวกัน คือ เป็นทั้งโฮมออฟฟิศ บ้านพักอาศัยส่วนตัว โรงแรม แกลลอรี่ และคาเฟ่

img_2673

Wie Immer…As Always Love

เราถามคุณหงถึงเรื่องชื่อร้านที่ฟังครั้งแรกก็รู้สึกติดปาก แต่พอเห็นเป็นตัวอักษรแล้วกลับไม่คุ้นตา ซึ่งคุณหงก็ตอบเรามาว่า จริงๆแล้วอยากได้ชื่อว่า “เช่นเคย” เพราะได้อารมณ์แบบบ้านเราเหมือนเคย  เลยใช้เป็นคำว่า Wie Immer แทน ซึ่งเป็นภาษาเยอรมัน แปลว่าเช่นเคยเหมือนกัน เพราะเรียกได้ติดปากมากกว่าคำว่าเช่นเคย และก็สอดคล้องกับโลโก้ร้านที่มีลักษณะเหมือนหน้าต่างซ้อนๆกัน ในแง่การออกเสียง wie กับ window ได้อย่างพอดิบพอดี

img_2644

Me Before You

เนื่องจากคุณหงมีแบล็คกราวน์เป็นนักออกแบบ จึงทำให้มีวิธีการคิดดีไซน์ร้านที่ต่างจากเจ้าของร้านทั่วไป คือ คิดจากความรู้สึกที่มีต่อสเปซภายในตัวบ้าน บวกกับตอนเด็กเคยอาศัยอยู่ที่บ้านนี้มาโดยตลอด จึงรู้ข้อดีข้อเสียของบ้านอย่างแท้จริง ซึ่งในขั้นตอนการออกแบบนั้น คุณหงได้เลือกวัสดุที่จะใช้มาเป็นอันดับแรก ต่อมาก็พิจารณาจากบริบทโดยรอบซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล จึงได้ออกมาเป็นร้านสไตล์โมเดิร์นสีขาว สไตล์ฝรั่งนิดๆ และเพิ่มกิมมิกความเป็นไทย-จีน จากของตกแต่งอย่างถ้วยชามลายพระอบ และกระเบื้องลายชิโนฯ

img_2625

Fall In Love with “Natural Light”

และด้วยความที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านตึกแถวนี้มาตั้งแต่เด็ก จึงทราบจุดด้อยของตึกแถวเป็นอย่างดี คือ ห้องบริเวณกลางบ้านจะเป็นห้องที่มืดมาก เพราะไม่มีหน้าต่างเลยสักบาน พอได้โอกาสตกแต่งบ้านใหม่จึงพยายามทำให้ทุกพื้นที่ในบ้านหลังนี้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเท่าเทียมกัน โดยเว้นพื้นที่เป็นปล่องโล่งกลางบ้าน ในตำแหน่งที่ตรงกับ Skylight ด้านบนหลังคา เพื่อนำแสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาสู่ภายในบ้าน และใช้สีขาวเป็นสีหลักในการตกแต่ง เพราะสีโทนสว่างจะทำให้บ้านดูกว้างขึ้น

img_2645

โดยเริ่มจากคาเฟ่ที่อยู่ด้านหน้าสุดของบ้าน ซึ่งเดิมเคยเป็นโรงรถมาก่อน แต่ตอนนี้ได้ทำหลังคา Skylight ลาดเอียงลงมาจากชั้น 2 และตกแต่งด้วยไม้และกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่น ละมุนตา เหมือนนั่งจิบกาแฟชิวๆ อยู่ในเรือนกระจก

img_2630

img_2632

หากเดินผ่านประตูบานลูกฟักเข้าไปบริเวณด้านหลังคาเฟ่ จะพบกับพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งใช้เป็นส่วนของแกลลอรี่ และสถานที่จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปต่างๆ

img_2654

ถัดขึ้นมาชั้น 2 เป็นส่วนออฟฟิศ Lighting Design และห้องนอนของคุณหง ซึ่งในส่วนของห้องทำงาน มีกิมมิกอยู่ที่หน้าต่างอินดอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกำแพงของชั้น 2 ให้ความรู้สึกว่าเหมือนมีหน้าต่างหลายๆบาน เพื่อเปิดรับแสงสว่างเยอะๆ

img_2607

เมื่อเดินขึ้นบันไดมาถึงชั้น 3 จะพบกับส่วนของห้องพักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งที่นี่มีด้วยกันทั้งหมด 4 ห้อง แต่ละห้องตกแต่งในสไตล์เรียบง่าย ในโทนสีขาว-น้ำตาล ดูอบอุ่น น่าพักผ่อน เนื่องจากเป็นห้องที่มีเพดานสูง จึงทำให้เตียงนอนขนาด 6 ฟุต ถูกยกลอยขึ้นสูงจากพื้น เพื่อที่จะได้ใช้พื้นที่ว่างด้านล่างเป็นมุมโซฟา สำหรับนั่งพักผ่อน และที่สำคัญทั้ง 4 ห้องนี้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเท่าเทียมกันทุกห้อง

img_2622

ทางเดินบริเวณหน้าห้องพัก แม้ไม่มีไฟบนเพดาน แต่ก็ไม่รู้สึกมืดเพราะได้แสงสว่างจากช่องแสงด้านบนหลังคา

img_2628

ช่องเปิดกลางบ้าน นำแสงจากภายนอกเข้าสู่ภายใน ทำให้ทุกห้องในบ้านได้รับแสงอย่างทั่วถึง

img_2661

กรุ่นกลิ่นกาแฟและขนมไทย

เวลาพูดถึงคาเฟ่นอกจากเครื่องดื่มแล้ว หลายคนก็คงจะคิดถึงขนมเค้กต่างๆ แต่น้อยครั้งมากที่เราจะเห็นขนมไทยมาปรากฏตัวอยู่ในร้านกาแฟ เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่ามันเข้ากันไม่ได้ แต่จริงๆแล้ว มันเข้ากันดีเลยล่ะ

img_2663

Hot Orange Chocolate เมนูเครื่องดื่มกึ่งขนม ที่ชื่อบอกว่าเป็นของร้อนแต่ความจริงไม่ร้อน เป็นการรวมกันระหว่างช็อกโกแลตร้อนๆ ที่เทลงในแก้วเยลลี่รสส้ม ราดด้วยฟองนมนุ่มๆ และโรยผงโกโก้ปิดท้ายด้านบน

img_2669

ขนมต้มไส้มะพร้าว ทำสดใหม่ทุกวัน เนื้อแป้งเหนียวนุ่มคลุกมะพร้าวเสิร์ฟในหม้อนึ่งขนาดจิ๋ว เมื่อเปิดฝาหม้อขึ้นมาก็จะได้กลิ่นหอมของมะพร้าวทันที นอกจากหน้าตาจะน่ารักแล้ว รสชาติยังอร่อยไม่แพ้หน้าตาอีกด้วย

img_2666

Tiramisu ขนมหวานขึ้นชื่อฝั่งอิตาลี รสชาติกลมกล่อม ไม่หวานจนเกินไป

สำหรับใครที่สนใจอยากลิ้มลองเมนูขนมไทย เคล้ากลิ่นกาแฟ ก็ไปลองกันได้ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. แนะนำว่าไม่ควรเอารถมานะ เพราะเป็นซอยเล็กๆไม่มีที่จอดรถค่ะ ส่วนใครที่อยากลองพักโฮมสเตย์แบบโมเดิร์น ก็ Inbox ไปสอบถามรายละเอียดได้ที่เพจของร้านเลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก Wie Immer Bangkok