คาเฟ่และร้านอาหารในบรรยากาศโรงเก็บเครื่องบินสไตล์ industrial loft
Air Space Hua Hin
12/399 หมู่บ้านหัวดอน ตําบลหนองแก อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Owner : คุณแอร์ – กรศิริ ศุภกฤตกุล
Architect : Hypothesis Design Agency
Interior : PIA Interior
Landscape : Kernel Design
จากความหลงใหลในการมาท่องเที่ยวที่เมืองหัวหินบ่อยๆ ของครอบครัวหนึ่ง และได้พัฒนากลายเป็นความรักที่มีต่อเมืองนี้ จนเป็นแรงผลักดันในการสร้างสถานที่ในฝันให้เกิดขึ้นจริง ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Air Space Hua Hin คาเฟ่และร้านอาหาร ที่เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์โชว์ของสะสมเก่าแก่ขนาดย่อมที่บอกเล่ารายละเอียดความเป็นเมืองหัวหินได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ก้าวเข้ามาในร้าน
12°30’54.7”N / 99°58’34.8”E
จุดเริ่มต้นของร้านอาหารแห่งใหม่ในย่านเขาตะเกียบนี้ เกิดจากความต้องการมีร้านกาแฟเจ้าประจำในเมืองตากอากาศยอดฮิตอย่างหัวหินของคุณแอร์ – กรศิริ ศุภกฤตกุล จึงเดินหน้าแบ่งปันความฝันนี้สู่สาธารณะ โดยได้การผนึกกำลังจากยอดฝีมือด้านงานดีไซน์ ตั้งแต่งานออกแบบสถาปัตยกรรมโดย Hypothesis Design Agency ออกแบบภายในโดย PIA Interior และออกแบบแลนด์สเคปโดย Kernel Design เป็นผู้สร้างฝันของคุณแอร์ให้กลายเป็นจริง
Air(plane) Space
หัวใจหลักที่ทำให้ความฝันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ก็คือแรงบันดาลใจ ซึ่งคุณแอร์ได้เล่าว่าได้ inspired ร้านในฝันมาจากเรื่องราวของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ลูกชายคนที่ 35 ของรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ทดลองขับเครื่องบิน 1903 Wright Flyer และเป็นผู้วางรากฐานเมืองหัวหินให้เจริญรุ่งเรืองอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงนำเรื่องราวของเครื่องบินลำแรกของโลกมาเป็นแกนหลักในการเล่าเรื่อง และเป็นที่มาของชื่อ “Air Space” ซึ่งตีความได้หลายความหมาย หากแปลตรงตัวเลยก็คือ น่านฟ้า พื้นที่ที่เครื่องบินใช้บิน หากเป็นความหมายโดยอ้อมก็คือพื้นที่(ในฝัน)ของคุณแอร์นั่นเอง
The Glass Barn
และด้วยทำเลที่ตั้งที่ไม่ได้อยู่ติดทะเล จึงค่อนข้างเป็นจุดด้อยของร้านอาหารในเมืองตากอากาศ ทางทีมสถาปนิกจึงเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติโปร่งใสอย่างกระจกใส เพื่อชดเชยเรื่องความสว่างภายในร้าน
ทำให้ได้ร้านที่มีโครงสร้างเหมือนโรงนาในสไตล์ Industrial Loft
แต่ภายในได้จำลองบรรยากาศโรงเก็บเครื่องบินของพี่น้องตระกูล Wright เอาไว้ และใช้ต้นไม้ เป็นตัวกำหนดเขตพื้นที่แทนรั้วคอนกรีต ซึ่งได้ inspired มาจากรั้วบ้านในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมืองที่คุณแอร์ได้ไปใช้ชีวิตศึกษาหาความรู้ตั้งแต่เด็ก จึงได้ออกมาเป็นรั้วต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา และช่วยลดการสะท้อนของแสงแดดเมื่อส่องกระทบกระจก ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรู้สึกว่าธรรมชาติภายนอกอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในอาณาบริเวณร้าน ทางทีมออกแบบได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ ร้านอาหาร คาเฟ่ และ outdoor bar
ซึ่งในส่วนของคาเฟ่นั้นจะอยู่ทางขวาสุดของร้าน(หันหน้าเข้าร้าน) เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบกับเคาน์เตอร์สำหรับออเดอร์เครื่องดื่มของของหวาน ที่ทอดตัวยาวกินพื้นที่ไป 2 ใน 3 ของความกว้างร้าน ตกแต่งด้วยการต่อโครงเหล็กเป็น outline ทรงบ้าน ส่วนเพดานตกแต่งด้วยแชนเดอร์เลียที่ทำมาจากมอเตอร์ใบพัดเฮลิคอปเตอร์ แต่ไฮไลต์เด็ดยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ที่กำแพงคอนกรีตด้านในสุดของร้าน ตกแต่งด้วยแผนที่โลกขนาดใหญ่ ที่ทำมาจากแผ่นหนังหลากเฉดสี มุมยอดฮิตที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คที่ใช้แทนคำพูดว่ามาถึงร้านแล้วนะ ส่วนเมนูในคาเฟ่ก็จะเน้นไปที่เมนูกาแฟนานาชนิด และเมนูอาหารว่างในหมวด Breakfast และ Brunch เพื่อให้นั่งทานได้ตลอดทั้งวัน
แชนเดอร์เลีย ที่ได้มาจากชิ้นส่วนเครื่องยนต์ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์
บางพื้นที่ในร้านถูกตกแต่งด้วยกล่องเก็บกระสุนหลากหลายรุ่น สีเขียวอ่อนเป็นรุ่นปี 1958-59 ส่วนสีเข้มเป็นรุ่น 1992,1995 ซึ่งแขกสามารถใช้เป็นที่วางกระเป๋าในระหว่างทานอาหารได้ ส่วนกล่องที่ไว้อยู่นอกร้านก็ใช้เป็นกระถางต้นไม้
ถัดมาก็เป็นส่วนของร้านอาหาร ซึ่งตกแต่งให้มีบรรยากาศของโรงเก็บเครื่องบิน เมื่อมองขึ้นไปบนเพดานก็จะพบกับโมเดลเครื่องบิน 1903 Wright Flyer จำลอง ที่มีขนาดเกือบเท่าไซส์จริงลอยเด่นอยู่กลางร้าน และบริเวณโดยรอบที่นั่งในร้านส่วนนี้ ก็ตกแต่งด้วยของสะสมโบราณของคุณพ่อคุณแอร์ อย่างเครื่องคิดเงินรุ่นโบราณ เครื่องเล่นแผ่นเสียง ไปจนถึงภาชนะใส่อาหารที่คนไทยสมัยก่อนนิยมใช้อย่างปิ่นโต ส่วนอาหาร ที่นี่จะเสริฟเป็นเมนูอาหารไทยในสไตล์ฟิวชั่น ซึ่งก็ดูเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศภายในร้าน
“ซึ่งของสะสมโบราณเหล่านี้นี่ล่ะ ที่ช่วยเติมเต็มให้ที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่สำหรับคนทุกวัยในครอบครัว คนรุ่นปู่ย่าพอเห็นของเก่าก็นึกถึงวันวานอันหอมหวาน ส่วนเด็กๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งของที่ตนเองไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้ชายก็เพลินเพลินกับของสะสมเท่ๆ ส่วนผู้หญิงก็เอนจอยกับรสชาติอาหารและความงามของร้าน” คุณแอร์กล่าว
ประตูเครื่องบินขนย้ายรุ่น C123 ถูกนำมาปรับขนาดให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นประตูห้องน้ำคนพิการ ซึ่งประตูดังกล่าวนี้ตั้งอยู่ระหว่างส่วนคาเฟ่และร้านอาหาร
พื้นคอนกรีตขัดมัน คาดด้วยเหล็กสลักด้วยเลขละจิจูด และ ลองจิจูด ที่บอกพิกัดของที่ตั้งร้าน กิมมิกเล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้พื้นคอนกรีตดูมีชีวิตชีวาขึ้น
ฝั่งซ้ายสุดของร้านเป็นส่วน outdoor bar ตกแต่งด้วยเก้าอี้เหล็กสีแดงสด เพื่อสื่อถึงพริกในสวน เป็นการเลือกใช้สีแบบ color blocked ที่สร้างจุดเด่นให้เห็นร้านตั้งแต่ระยะไกล ส่วนบาร์ที่นี่จะเสริฟเมนูเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะร้านนี้เท่านั้น เพราะเครื่องดื่มแต่ละชนิด ได้ถูกถอดแบบมาจากคาแรคเตอร์ตัวละครต่างๆ ที่เกี่ยวกับข้องเครื่องบิน เช่น แอร์โฮสเตส ที่ใช้ส่วนผสมหลักเป็น Cachaca ผสมกับน้ำกุหลาบและน้ำมะนาว ตกแต่งด้วยกลีบบัว ให้ความรู้สึกของ Air Hostess ที่ดูภายนอกจากดูสวยหวานเหมือนเครื่องดื่มที่เป็นสีชมพู แต่ดื่มเข้าไปแล้วจะรู้สึกถึงความขมและความแรงของ Cachaca เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีเมนูยาดอง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบาร์แบบไทยๆ ให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย
In-flight Meal
แกงเผ็ดเป็ดย่าง
เมนูแกงไทยยอดฮิตของทางร้าน เสริฟในหม้อไฟทองเหลืองที่อุ่นร้อนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ได้กลิ่นหอมของกะทิเครื่องแกงรสเข้ม และเนื้อเป็ดอบน้ำผึ้งย่าง ทานคู่กับสัปปะรดและลิ้นจี่ จะได้รสเผ็ดอมหวานเข้ากันได้ดีอย่างลงตัว
เมี่ยงส้มโอ กุ้งย่างใบชะพลูทอด
เมนูเมี่ยงแบบฟิวชั่น ที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานใบชะพลูแบบดิบๆ หรือเด็กที่ไม่ทานผักอย่างยิ่ง เพราะทอดแล้ว จะช่วยกลบกลิ่นเขียวๆได้ ให้ความรู้สึกเหมือนทานผักทอดทั่วไป เป็นเครื่องเคียงที่ตัดรสเผ็ดของเมี่ยงได้อย่างพอดิบพอดี
บัวลอย
เมนูของหวานแบบไทยๆ ที่ใช้เม็ดแป้งผสมเผือกรมควัน ต้มให้สุกพร้อมกับน้ำกะทิมะพร้าวสด ได้รสชาติไม่หวานจนเกินไป
“นอกจากรสชาติอาหารที่ต้องอร่อยแล้ว การตกแต่งร้านก็ต้องสวยอีกด้วย เพราะเราอยากให้ความสำคัญกับการเสพย์ความงามในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น รูป(แบบที่สวยงาม) รส(ชาติที่อร่อย) กลิ่น(ความหอมของอาหาร) เสียง(เพลงแจ้สที่ไพเราะ)” คุณแอร์กล่าวทิ้งท้าย
หัวหินอยู่ไม่ไกลกรุงเทพ หากใครมีโอกาสผ่านมาแถวนี้ เราอยากให้ลองแวะมาร้านนี้ดูสักครั้ง เพื่อมาเสพย์ความงามของงานดีไซน์ ไปพร้อมๆกับรสชาติอาหารแสนอร่อยด้วยตัวคุณเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก Air Space Hua Hin