พลิกโฉมบ้านเก่าจากยุค 1930 ให้กลายเป็นโอเอซิสอันเงียบสงบท่ามกลางยุคแห่งป่าคอนกรีต
Casa Verne
Location : Colonia Polanco, Mexico City
Architects : Zeller & Moye
Landscape : Entorno Taller de Paisaje
Total Area : 460 sqm.
Garden Area : 125 sqm.
สมัยก่อนในยุคที่เทคโนโลยีต่างๆ ยังไม่เข้ามามีบทบาทในชีวิตกับปัจจุบัน ผู้คนต่างใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว แต่เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ป่าสีเขียวกลายเป็นป่าคอนกรีต ทุ่งหญ้าที่โบกสะบัดไปตามแรงลม แปรเปลี่ยนเป็นถนนสีเทา ระยะห่างระหว่างบ้านลดน้อยลงทั้งระยะทางและระยะตา ทำให้รูปแบบของบ้านคนเมืองเปลี่ยนไป แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่พยายามสวนกระแส นำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับบ้านในประเทศเม็กซิโกหลังนี้ “Casa Verne” ที่ถึงแม้ตัวบ้านจะเป็นคอนกรีตทึบตัน แต่ยังคงสอดแทรกสีเขียวไว้ในตัวบ้านได้อย่างลงตัว
แรกเริ่มเดิมทีบ้านหลังนี้มีลักษณะเป็นตึกแถวเก่าอายุกว่า 80 ปี แต่ด้วยสภาพโครงสร้างที่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลา จึงเป็นที่มาให้เจ้าของบ้านตัดสินใจรีโนเวตบ้านใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการอยู่อาศัยในปัจจุบัน โดยได้ Christoph Zeller และ Ingrid Moye สองสถาปนิกเจ้าถิ่นจากสตูดิโอ Zeller & Moye เป็นหัวเรือหลักในการปรับปรุงบ้านครั้งนี้ โดยพยายามคงสภาพความร่วมสมัยระหว่างดีไซน์สไตล์ Art Deco ของการตกแต่งภายใน กับสไตล์โมเดิร์นของอาคารภายนอก เพื่อเป็นกิมมิกในเรื่องความทราสต์ และที่สำคัญเขาทั้งคู่เลือกที่จะแบ่งพื้นที่ดาดฟ้าไว้เกินครึ่ง เพื่อจัดสวน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่หาดูได้ค่อนข้างยากในสังคมป่าคอนกรีตปัจจุบัน ที่ผู้คนต่างใช้พื้นที่ของอาคารตึกแถวทำเป็นพื้นที่พักอาศัย indoor กันหมด
หากมองจากมุมสูงจะเห็นสีเขียวสดใสของต้นไม้โดดเด่นมาแต่ไกล
ซึ่งทั้ง Zeller และ Moye ไม่เพียงแต่รับผิดชอบเรื่องการออกแบบภายนอกอาคาร แต่พวกเขาดูไปถึงการออกแบบภายในด้วย โดยพวกเขาได้ออกแบบแปลนใหม่ โดยแบ่งพื้นที่บางส่วนในชั้น 1 และ 2 เพื่อจัดสวนภายในบ้าน และเจาะช่องแสงจากพื้นชั้น 3 ให้ตรงกับแนวสวนชั้น 2 เพื่อให้ต้นไม้ได้รับแสงสว่างที่เพียงพอ และเพื่อเป็นกิมมิกให้กับตัวบ้าน และยังทำให้ภายในบ้านได้รับแสงธรรมชาติมากเท่าที่จะมากได้
นอกจากนั้นยังพยายามแทรกมุมสีเขียวเล็กๆเข้าไปในทุกๆส่วนของบ้าน เพื่อลบความแข็งกระด้างของเหลี่ยมมุมคอนกรีต ทำให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
โดยที่พื้นที่ชั้น 1 และ 2 ถูกแบ่งให้เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมสังสรรค์กันในครอบครัว จึงเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานมาก่อนความสวยงาม โดยจะเห็นได้จากความเรียบง่าย แต่ดูหรูหราของคิ้วบัวเพดานและพื้น สีสันแบบ monochrome และการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ built-in ที่วางติดผนัง ทำให้ได้สเปซที่โปร่งโล่ง เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายในอนาคต
ห้องน้ำดีไซน์เรียบง่าย ตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาวลายดำ และฮาร์ดแวร์สีทอง ดูเรียบหรู ไม่ทิ้งสไตล์ Art Deco และเพิ่มความโมเดิร์นด้วยการเจาะช่องแสงด้านบนเพดานเหนือส่วน shower เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานในเวลากลางวัน และยังช่วยทำให้ห้องน้ำไม่อับชื้น
ส่วนพื้นที่ชั้น 3 เจ้าของบ้านต้องการให้เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนสำหรับทุกคนในบ้าน จึงได้ให้สถาปนิกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ พื้นที่ indoor ที่เป็นส่วนของห้องนอน พื้นที่กึ่ง outdoor ที่เป็นส่วนของชุดเก้าอี้โต๊ะกลม ที่นั่งพักผ่อน ดื่มด่ำบรรกาศอันเงียบสงบกลางเมืองสุดชิวๆ ที่ถูกคลุมด้วยหลังคาระแนงไม้ และส่วนสุดท้าย ส่วน outdoor ซึ่งเป็นพื้นที่ของโอเอซิสสีเขียว
สถาปนิกได้เลือกใช้ประตูห้องนอนแบบบานเลื่อนกระจกที่มีความสูงเต็มพื้นที่ ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ชมความงามของสวนได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีอะไรมาบดบัง
ส่วนพระเอกของบ้านอย่างสวนดาดฟ้านี้ ได้ Lanscape เจ้าถิ่นจาก Entorno Taller de Paisaje เป็นผู้ออกแบบให้ โดยเลือกแบ่งพื้นที่สวนออกเป็น 50% สำหรับต้นไม้ และอีก 50% สำหรับ Hardscape ปูพื้น เพื่อลดภาระในการดูแลสวน และอย่างที่ทราบกันดีว่าพื้นที่ดาดฟ้าก็ไม่ต่างอะไรกับหลังคาบ้าน ที่ต้องโดนแดดอยู่ตลอดเวลา ต้นไม้ที่เลือกใช้จึงต้องเป็นพรรณไม้ที่ชอบแดดและทนทานต่อความร้อน เช่น ไม้ตระกูล Dracaena อย่างต้นจันทร์ผา ไม้ใบหนาอย่างพลูฉีก (มอนเตอร่า) , ใบเล็บครุฑ (Aralia leaf) หรือจะเป็นไม้คลุมดินอย่างหนวดปลาดุกแคระ ส่วนกำแพงสีขาว นักออกแบบสวนก็เลือกตกแต่งด้วยต้น Ivy หรือตีนตุ้กแกฝรั่ง เพื่อไม่ให้กำแพงดูโล่งจนเกินไป โดยรากของไม้เลื้อยชนิดนี้จะยึดเกาะกับผนังและแนบไปกับตัวอาคาร แต่ก็ต้องระวังไม่ให้กำแพงมีรอยร้าวหรือกะเทาะ เพราะรากอาจชอนไชเข้าไปตามรอยเหล่านี้ และทำให้เกิดความเสียหายได้
ภายใต้หน้ากากโมเดิร์นดูเรียบง่ายของตัวอาคารภายนอก ที่กั้นระหว่างพื้นที่ส่วนตัวในบ้านกับความวุ่นวายกลางเมือง บ้านที่อบอุ่นที่ถูกสร้างสรรค์ให้มาให้มีครบทุกฟังก์ชั่นในแบบที่ทุกๆบ้านควรจะเป็น ก็จะดูน่าอยู่ เหมือนดั่งโอเอซิส ที่ใช้พักผ่อนหลบร้อนหลบหนาว และเป็นดั่งที่พักใจของทุกคนในบ้าน
cr: designboom , thisispaper