OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Design Makes A Better Life.

Design Makes A Better Life.

Invisible Coffee Room ร้านกาแฟล่องหน ที่เสิร์ฟสิ่งที่ตาไม่สามารถสัมผัสได้

“Delicious is invisible เมื่อความอร่อยไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่มีคำจำกัดความว่ากาแฟที่อร่อยต้องเป็นอย่างไร เหมือนงานศิลปะที่ขึ้นอยู่กับมุมมองความชอบของแต่ละคน ต้องลองมาสัมผัสแล้วจะรู้ว่าแบบไหน…ที่ใช่สำหรับคุณ”

Invisible coffee room

Location : ซอยสุขุมวิท 16 คลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

Owner : คุณหนุน ธนะพงษ์ หริรัตน์เสรี

Interior : คุณเพชรอุษา คูวัฒนาภาศิริ Ilikedesignstudio

Lighting : คุณวิรัลพัชร นารานิติธรรม Solas is light Co.,Ltd.

ใครจะคิดว่าท่ามกลางความวุ่นวาย ในซอยสุขุมวิท 16 ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากห้างชื่อดังอย่าง    เทอมินอล 21 ยังมีร้านกาแฟสีขาวที่แอบกระซิบคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ด้วยรูปแบบเรียบง่ายแฝงความเท่จากกระจกที่ล้อมรอบกรอบไม้โทนสีอบอุ่น ไม่มีชื่อป้ายร้านด้านหน้า มีเพียงตัวอักษรสีขาวด้านบนเรียงเป็นประโยคสั้นๆว่า “Delicious is invisible” ที่อ่านแล้วชวนให้อยากเข้าไปลิ้มลองความอร่อยในทันที

– ค้นหา จน ค้นพบ –

“Delicious is invisible” คอนเซ็ปต์ร้านที่ไม่ธรรมดาจาก “คุณหนุน ธนะพงษ์ หริรัตน์เสรี” สถาปนิกหนุ่มที่ออกค้นหาตัวเองและค้นพบว่ากาแฟคือสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับเขา ซึ่งนอกจากเป็นเจ้าของและคนวางแนวคิดของร้านแล้ว ยังเป็นบาริสต้าที่เชี่ยวชาญด้านลาเต้อาร์ต การันตีจากการร่ำเรียน Specialty Coffee ไกลถึงแดนกิมจิ

คุณหนุนได้บอกกับเราว่า “จุดเริ่มต้นนั้นเกิดขึ้นจากการที่ได้ออกไปท่องเที่ยวและค้นหาตัวเองที่เกาหลี ทำให้เราค้นพบบางสิ่งที่เรารัก เราชอบ และเป็นสิ่งที่อยู่กับเรามานานนั่นคือ กาแฟ” ความคิดแรกที่ตั้งใจไปเรียนรู้งานดีไซน์ที่นั่นแค่อย่างเดียว จึงเปลี่ยนเป็นการเรียนบาริสต้าควบคู่ไปด้วย หลังกลับมาฝึกฝีมือเป็นบาริสต้าฟรีแลนซ์ และเปิดร้าน Invisible coffee room ของตัวเองในที่สุด

– ความอร่อยไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยตา –

จากความคิดเรื่องรสชาติเป็นสิ่งที่จับต้องยาก คล้ายเวลาที่เราถามเพื่อนว่าผัดกะเพราร้านไหนอร่อย ซึ่งคำตอบนั้นไม่สามารถให้คำอธิบายเพิ่มเติมเราได้ว่ามันอร่อยอย่างไร และนี่คือที่มาของคำว่า Delicious is invisible ความอร่อยไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยการมองเห็นหรือแค่คำบอกเล่า จนกว่าจะได้ไปลิ้มลองด้วยตัวเอง คล้ายความงามของงานศิลปะที่ขึ้นอยู่กับมุมมองและความชอบของแต่ละคน

– เรียบๆ ง่ายๆ แต่น่าค้นหา –

ก้าวแรกหลังจากเปิดประตู จะพบกับบรรยากาศภายในที่เสิร์ฟความเรียบง่ายสไตล์มินิมอลพร้อมกลิ่นหอมละมุนของกาแฟ ความนิ่งเรียบผ่านโทนสีขาวของร้าน บวกกับวัสดุง่ายๆอย่างเหล็ก ไม้ ถูกนำมาจัดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยการออกแบบเส้นสายน้อยชิ้นเกิดขึ้นจากความชอบส่วนตัว เป็นความตั้งใจที่อยากให้ที่แห่งนี้เป็นเหมือนสถานที่พักผ่อนลับๆสำหรับมนุษย์ออฟฟิศ

บริเวณที่จับประตู มีโลโก้เล็กๆรูปร่างสามเหลี่ยมคว่ำ คล้ายกับฟอร์มของถ้วยกาแฟดริป

บานหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่ถูกห้อมล้อมด้วยกรอบไม้สีโทนอบอุ่น ถูกออกแบบให้เป็นที่นั่ง โดยสามารถนั่งลิ้มรสกาแฟไปพร้อมกับการรับแสงแดดอ่อนๆที่สาดส่องเข้ามาได้

ถ้าสังเกตดีๆบนกระจกจะมีเส้นสายที่แฝงความหมายซ่อนอยู่ โดยจังหวะของเส้นที่ไล่ระดับความถี่นี้ ช่วยเพิ่มความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา สื่อความหมายถึงชื่อร้าน Invisible ได้เป็นอย่างดี

การออกแบบแพทเทิลกระเบื้องเคาน์เตอร์บาร์เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และใช้สีโมโนโทนสลับกับกระจกเงานั้น ทำให้สเปซนี้ดูมีความเคลื่อนไหวท่ามกลางการตกแต่งที่ดูนิ่งและซอฟท์

– ใส่ใจในรายละเอียดแสง –

แสงสว่างภายในร้าน จะเน้นการใช้แสงจากธรรมชาติเป็นหลัก ส่วนแสงประดิษฐ์จากโคมไฟที่ห้อยลงมาในระดับพอดีกับแสงนวลๆชวนสบายตาบริเวณโต๊ะ ช่วยสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับการนั่งทำงานและการดื่มด่ำกาแฟอย่างพิถีพิถัน

ส่วนแสงบริเวณเคาน์เตอร์ภายใต้โคมไฟที่ถูกออกแบบมาเพื่อร้านโดยเฉพาะ ถูกจัดให้ส่องสว่างบริเวณที่ขนมตั้งอยู่และพื้นที่ที่เสิร์ฟความหอมละมุนของกาแฟ

– สร้างบริบท แล้วพบสิ่งใหม่ –

พื้นที่หน้าร้านออกแบบให้ล่นระยะเข้ามาเพื่อสร้างที่นั่งเล่น ซึ่งนอกจากลูกค้าจะสามารถนั่งเปลี่ยนบรรยากาศในการดื่มด่ำกับกาแฟภายนอกได้แล้ว บริบทของคนอื่นๆที่เข้ามาใช้งานกลับมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน บางคนใช้สเปซนี้ในการยืนรอเพื่อนัดพบใครสักคน มีคุณลุงคุณป้านั่งเล่นดนตรี ไปจนถึงมีคนมาขายของ ทำให้เราเห็นความเป็นไปของบริบทร้านใหม่ๆที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจอยู่เสมอ

มาถึงความหอมกรุ่นที่เสิร์ฟพร้อมความละเมียดละไมของลายลาเต้อาร์ตบนถ้วยกาแฟที่คุณหนุนสร้างสรรค์เองทุกถ้วย อย่าง เมนู Flat White กาแฟกับฟองนมนุ่มๆที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มฟิวชั่นชา เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่มีชื่อน่าประหลาดใจว่า OMG ส่วนผสมระหว่างชาเขียวมัทฉะ ชาไทย และนม ที่นอกจากจะถูกใจในรสชาติที่กลมกล่อมแล้ว ยังถูกใจกับสีสันที่น่าลิ้มลองอีกด้วย

“พี่ไม่คิดว่ากาแฟที่ร้านจะถูกปากทุกคน แต่อยากให้มาลองเองมากกว่า แล้วหลังจากลองนั้นก็จะรู้ว่า รสชาติไหน…ที่ใช่สำหรับคุณ” คุณหนุนกล่าวทิ้งท้าย ให้ทุกคนตั้งใจมองหาความอร่อยที่ไม่สามารถมองเห็นได้ มาสัมผัสกาแฟในรสชาติที่ล่องหนอยู่ภายใต้บรรยากาศอันกลมกล่อมในร้าน Invisible Coffee Room ร้านกาแฟล่องหน ที่รอการปรากฏตัวให้เห็นเฉพาะคนที่ต้องการเท่านั้น

Discover more from Design Makes A Better Life.

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading