OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Cuisine de Garden BKK แรงบันดาลใจจาก “ธรรมชาติ” ที่เสิร์ฟผ่านการออกแบบและเมนูอาหาร

เพียงก้าวแรกที่ได้เข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติกที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ภายใต้แสงไฟระยิบระยับ ก็เหมือนรุ้สึกได้เข้าไปใน ‘โลกแห่งธรรมชาติ’ ได้อย่างไม่ทันตั้งตัว

Cuisine de GardenBKK

Location : ซอยเอกมัย 2 แขวงพระโขนง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

Interior : คุณม่อน สรกิจ กิจเจริญโรจน์ 

Owner : คุณม่อน คุณพีช และเชฟแนน

จาก ‘เชียงใหม่’ ส่งตรงถึง ‘เอกมัย’

ใครหลายคนคงเคยได้สัมผัสกับบรรยากาศร้าน Cuisine de garden ร้านอาหารชื่อดังในเชียงใหม่ที่เลือกเสิร์ฟศิลปะบนเมนูอาหารโดยได้รับแรงบันดาลใจจากความงามของธรรมชาติ และด้วยความปราณีตในการรังสรรค์ความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนร้านอาหารทั่วไป ทำให้ Cuisine de garden เป็นที่รู้จักและครองใจใครหลายๆคน รวมถึงคุณม่อน สรกิจ กิจเจริญโรจน์ และ คุณพีช วงศ์ณิชา วงศ์สืบชาติ ที่หลงใหลในความครีเอทนี้ จนริเริ่มโปรเจคร้านอาหารโดยการชักชวนเชฟแนน ลีลวัฒน์ มั่นคงติพันธ์ เจ้าของร้านและหัวหน้าเชฟสาขาต้นตำรับ มาถ่ายทอดเรื่องราวธรรมชาติผ่านเมนูอาหารที่ร้าน Cuisine de garden สาขาใหม่ในเอกมัย

‘ต้นไม้ใหญ่’ หลังตึกแถว

จุดเริ่มต้นในการหาทำเลในกรุงเทพนั้น คุณม่อนได้พบกับตึกแถวเก่าในย่านเอกมัยที่เดิมเป็นแกลอรี่ ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังของตึกแถว ที่สร้างบรรยากาศความร่มรื่น สงบ แถมยังสอดคล้องกับความเชื่อในพลังธรรมชาติของเชฟแนน จึงตัดสินใจเช่าพื้นที่นี้ และด้วยความที่คุณม่อนเป็นสถาปนิกจึงเริ่มโครงการรีโนเวตในทันที โดยใช้เวลาตกแต่งเพียง 2 เดือนเท่านั้น

‘ภายใน’ ที่เสมือน ‘ภายนอก’

แม้จะเป็นพื้นที่กลางเมืองย่านเอกมัย แต่ความต้องการที่จะสร้างบรรยากาศภายในร้าน ให้รู้สึกเสมือนกับนั่งทานอาหารมื้อพิเศษอยู่ท่ามกลางสวนภายนอกที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ การตกแต่งภายในร้านจึงเน้นการใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น ไม้ กรวดล้าง หินกรวด และต้นไม้จริง เพื่อถ่ายทอดความงามของธรรมชาติออกมาให้ชัดที่สุด

ลำต้นของต้นไม้จริงที่กระจายตัวอยู่ภายในสเปซแห่งนี้ ถูกจัดวางอย่างฟรีฟอร์มไร้รูปแบบ และกระจกสะท้อนเงาสีชา ถูกนำเอามาติดไว้ที่ผนังด้านหนึ่งของร้าน เพื่อช่วยสะท้อนภาพมิติต้นไม้ให้มีปริมาณเยอะขึ้น พื้นที่ภายในดูกว้างขึ้น และสัมผัสกับบรรยากาศใจกลางธรรมชาติที่สงบ ร่มรื่นได้อย่างแท้จริง

การคว้านพื้นไม้เดิมออกบางส่วน แล้วติดตั้งงาน Tree Installation ยึดลำต้นเข้ากับพื้นคอนกรีตข้างใต้ โรยหินกรวดสีดำทับอีกชั้นเพื่อให้รู้สึกเหมือนต้นไม้เติบโตขึ้นมาจากพื้นดินจริงๆ และเป็นการปิดร่องรอยงานก่อสร้างไปด้วยในตัว

การจัดเรียงโต๊ะอย่างไม่มีรูปแบบที่แน่นอน เพื่อให้รู้สึกสบายระหว่างรับประทานอาหารและเกิดสเปซส่วนตัวระหว่างโต๊ะ ซึ่งโต๊ะและเก้าอี้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ถูกออกแบบและสั่งผลิตมาพิเศษเฉพาะร้าน Cuisine de garden เท่านั้น

‘แสงไฟ’ ที่เสมือน ‘แสงจันทร์’

แสงไฟภายในร้าน ถูกออกแบบให้เป็นสองรูปแบบ ส่วนบริเวณของโต๊ะอาหารใช้แสงแบบ warm white ที่โทนสีออกเหลืองนวลๆ และเป็นแบบspot เพื่อเน้นส่องให้อาหารดูสวยงามและเกิดความสบายตาขณะรับประทานอาหาร

ส่วนแสงไฟที่สลัวอยู่เหนือต้นไม้เลือกใช้เป็นแบบ cool white เพื่อให้เกิดเอฟเฟคคล้ายๆแสงพระจันทร์ในยามค่ำคืนที่ส่องลงมากระทบกับลำต้นของต้นไม้ เกิดเงาที่ทอดตัวลงมาที่พื้น ให้ความรู้สึกเข้าใกล้ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

ชม ‘หิ่งห้อย’ ในเอกมัย

ส่วนของพื้นที่บาร์ที่เป็นกิมมิกของร้าน การใช้วัสดุจะเปลี่ยนไปแบบเห็นได้ชัด จากผนังปูนเปลือยที่มีบานหน้าต่างกระจกโค้งขนาดใหญ่ พื้นจากไม้ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่โรยด้วยหินกรวดสีดำที่เมื่อเดินแล้วจะมีเสียงกระทบกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและให้ความรู้สึกเหมือนเดินออกมาภายนอกร้าน

โดยยังมีต้นไม้ที่ออกแบบตกแต่งให้มีกิ่งก้านที่แผ่กว้างเป็นพิเศษเข้ามาในฝ้าเพดานที่ทาสีดำสนิท เพื่อให้รู้สึกเหมือนพื้นที่ภายนอก ไม่มีหลังคาปกคลุมอยู่ การออกแบบไฟจุดนี้ เราเลือกใช้ไฟ led ขนาดเล็กมากๆ เพื่อสร้างให้เกิดบรรยากาศที่คล้ายๆกับมีหิ่งห้อยที่บินลอยอยู่ท่ามกลางต้นไม้ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่หาไม่ได้ในเมืองกรุงแบบนี้

‘ภาพธรรมชาติ’ สู่ ภาพอาหารในจินตนาการ

อาหารที่ได้แนวคิดและแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ผสมผสานวัตถุดิบพื้นบ้านของไทยเข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่แบบตะวันตก ความพิเศษอยู่ที่แผ่นเมนูอาหาร ซึ่งแทนที่จะมีรูปอาหารแสดงให้เห็นเหมือนร้านทั่วไป แต่กลับมีเพียงรูปinspire จากธรรมชาติให้คิดจินตนาการถึงหน้าตาอาหารที่แท้จริงกันเอง

 “Nest” เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรังนก ปรุงด้วยวัตถุดิบชั้นดี ประกอบด้วยไข่ออนเซ็น เส้นหมี่ขาวที่ทำจากข้าว และเนื้อไก่ฉีก ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะที่พิถีพิถันเป็นพิเศษโดยเชฟแนน ซึ่งรูปแบบหน้าตาของอาหารแต่ละเมนูนั้นสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมาอีกด้วย

“Stone” ช็อกโกแลตที่ถูกครีเอทให้มีหน้าตาคล้ายก้อนหินสีดำ ที่ด้านในสอดไส้รสชาติความเป็นไทยอย่างมะขามและกระเจี๊ยบเอาไว้ ซึ่งนอกจากจะได้ลิ้มรสความอร่อยเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารแล้ว ยังได้สนุกกับการค้นหาช็อกโกแลตที่กลมกลืนอยู่กับก้อนหินจริงๆอีกด้วย ทำให้ผู้ที่ร่วมโต๊ะอาหารมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ถือเป็นประสบการณ์ดีๆจากธรรมชาติ ที่เป็นมากกว่าการรับประทานอาหารทั่วไป

ถึงแม้ Cuisine de Garden ที่เอกมัยจะเป็นสาขาน้องใหม่ที่เปิดตัวไปได้ไม่นาน แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Cuisine de Garden เชียงใหม่ไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งการสร้าง’ความรู้สึก’ผ่านผู้ออกแบบและเชฟสู่ลูกค้า ซึ่งนอกจากจะได้มาลิ้มรสชาติอาหารมื้อพิเศษแล้ว ยังได้ลิ้มรสบรรยากาศดีๆจากเรื่องราวของธรรมชาติที่หาได้ยากในชีวิตคนเมืองกลับไปอีกด้วย