ความลงตัวระหว่างความโมเดิร์นและความเป็นไทย ภายใต้ความแตกต่างแห่งวัยของสมาชิกในครอบครัว
Re-Gen House | House for mul-ti generations
Architect: EKAR architects
Location: Bangplat, Bangkok
Area: 1,726 sq.m.
เพราะพื้นที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯที่มีขนาดจำกัดและราคาแพงขึ้นทุกวัน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจึงต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ลักษณะครอบครัวเดี่ยวที่เลือกอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม หรืออพาร์ทเมนต์จึงมากขึ้น ต่างจากสมัยก่อนที่จะอยู่อาศัยภายในบ้านหลังใหญ่ ที่มีสมาชิกครอบครัวตั้งแต่ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ จนถึงรุ่นลูก การอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาและอบอุ่นแบบนี้ เราเรียกว่า “บ้านแบบครอบครัวขยาย” นั่นเอง
ในขณะที่วิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่กำลังจางลงไปทุกที.. กลับมีบ้านอย่าง Re-Gen House ที่เป็นหนึ่งในบ้านแบบครอบครัวขยายสไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ติดกับบ้านเดิมของคุณพ่อเจ้าของบ้าน โดยไว้วางใจให้ คุณหนึ่ง เอกภาพ ดวงแก้ว สถาปนิกแห่ง EKAR สร้างสรรค์พื้นที่สำหรับทุกคนอยู่กันอย่างพร้อมหน้าและเพื่อรองรับ “น้องมีนา” สมาชิกใหม่ของครอบครัวหัตถโกศล นั่นเอง
แรงบันดาลใจ สู่ “พื้นที่ชาน” แบบไทยๆ
“เมื่อความอบอุ่นและผูกพันภายในครอบครัว เป็นเสมือนรากฐานของความคิดในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต” แรงบันดาลใจจากคุณปู่น้องมีนา ที่ทำให้นึกถึงสังคมไทยสมัยก่อน แนวคิดของการนำบ้านเรือนไทยมาใส่ในสไตล์แบบโมเดิร์นจึงเกิดขึ้น ภายในบ้านขนาด 4 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,726 ตารางเมตร วางผังอาคารแบบรูปตัว L เพื่อเปิดพื้นที่ระเบียงใหญ่ หรือ “ชานกลางบ้านแสนร่มรื่น” ที่เป็นดั่งจุดศูนย์รวมของทุกคนในบ้าน โดยคุณปู่คุณย่า สามารถมาทำกิจกรรมร่วมกับลูกหลานในพื้นที่นี้ได้ ซึ่งจะช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสามช่วงวัยได้เป็นอย่างดี
“หัวใจหลักของบ้าน” เริ่มต้นที่ชั้นสอง
ด้วยพื้นที่ชั้น 1 ประกอบไปด้วยที่จอดรถห้องพักแม่บ้าน ห้องเครื่องสระว่ายน้ำ รวมถึงห้องเซอร์วิสต่าง ๆ ทำให้หัวใจหลักของบ้านและพื้นที่อยู่อาศัยจริงๆเริ่มต้นที่ชั้น 2 ซึ่งพื้นที่ชานแบบไทยๆภายใต้สีเขียวต้นไม้ และสีฟ้าของน้ำในสระว่ายน้ำที่ขนานไปกับตัวบ้านก็อยู่ในชั้นนี้ด้วย ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความร่มรื่นคล้ายบ้านไทยริมน้ำในสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังทำให้รู้สึกว่าเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย
การวางรูปทรงของบ้านเป็นตัว L เมื่อผนวกกับรูปทรงบ้านเก่าของคุณปู่ที่เป็นตัว L เช่นกันแต่สลับด้าน ทำให้เกิดรูปทรงใหม่ที่โอบล้อมพื้นที่สีเขียวแห่งความร่มรื่นจากบ้านเก่าและบ้านใหม่เอาไว้
นอกจากนี้ยังมีการสร้างศาลาในสวนหลังคาสีเขียว ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสวนขนาดใหญ่ของคุณปู่ โดยปลูกต้นไม้ประเภทพุ่มเตี้ยและคลุมดิน เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนได้สัมผัสธรรมชาติในระดับที่ติดกับพื้นดินมากที่สุดอีกด้วย
แอบมองสวนสีเขียวของคุณปู่
ด้วยความที่บ้านหลังเดิมของคุณปู่มีสวนอันร่มรื่นติดกับบริเวณพื้นที่ของบ้านหลังใหม่ จึงออกแบบห้องทำงานและห้องนอนในชั้น 3 ให้มีช่องกระจกบานกว้างและหันหน้าเข้าหาสวนสีเขียวนี้ซึ่งการเปิดมุมมองนี้ นอกจากจะกว้างพอให้สัมผัสกับสวนสีเขียวของคุณปู่ได้อย่างเต็มที่แล้ว ยังสามารถมองลงมายังระเยีบงชั้น 2 เพื่อมองดูน้องมีนาวิ่งเล่นได้อีกด้วย
สร้าง “บ้านหลังเล็กในหลังใหญ่” ด้วยวัสดุ
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับน้องมีนาในอนาคต ทำให้อาคารมีความสูงถึง 4 ชั้น ตัวบ้านอาจดูทึบตันและดูสูงเกินไปบ้าง สถาปนิกจึงลดทอนด้วยการใช้วัสดุกรุผนังแต่ละชั้นให้มีลักษณะแตกต่างกัน อย่างไม้เทียม ทำเป็นระแนง Façade ในชั้น 4 กระเบื้องลายหินในชั้น 3 และหินสีขาวในชั้น 2 เพื่อตัดกับสีไม้จากระเบียงไม้และบานกระจก ซึ่งนอกจากจะดูความหลากหลายในรูปลักษณ์อาคารแล้ว ยังดูเหมือนการแบ่งสัดส่วนของบ้านหลังเล็กๆ ในแต่ละชั้น เรียงรายอยู่ในบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลังได้อย่างลงตัว
ถ่ายเทอากาศ และมีความเป็นส่วนตัว
เนื่องจากฝั่งตรงข้ามของบ้าน เป็นอพาร์ทเมนต์ที่มีสูงถึง 4 ชั้น ซึ่งอาจทำให้การใช้งานในแต่ละพื้นที่ไม่เป็นส่วนตัวนัก สถาปนิกจึงออกแบบช่องเปิดปิดของอาคารฝั่งสวนและสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านหลังบ้านมากกว่าด้านหน้า และออกแบบบานหน้าต่างไม้ขนาดกว้างที่สามารถหมุนเปิดปิดได้ในบริเวณชั้น 2 ที่เป็นพื้นที่ของระเบียงเพื่อลดความทึบตันของรูปด้านแทน ซึ่งนอกจากจะสามารถเปิดปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้แล้ว ยังสามารถเปิดรับลมธรรมชาติให้ไหลผ่านเข้ามายังพื้นที่ภายในบ้าน ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกด้วย
บ้านหลังนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของบ้านพักอาศัยรูปแบบโมเดิร์นในปัจจุบัน ที่สอดแทรกความเป็นบ้านเรือนไทย ด้วยพื้นที่ชาน หรือการสร้างบรรยากาศเสมือนบ้านริมน้ำ อีกทั้งยังคงวิถีชีวิตแบบไทยๆ ด้วยการสร้างพื้นที่ของครอบครัวใหญ่ ที่จะช่วยสานสัมพันธ์ของคนทุกช่วงวัยภายใต้ความอบอุ่นแห่งการอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ