“ทำลายกำแพง เชื่อมต่อพื้นที่เพื่อเปิดรับธรรมชาติ และสร้างเอกลักษณ์ในมุมที่แตกต่าง”
Seoul Coffee Café
Location | กรุงโซล, เกาหลีใต้
Architects | LABOTORY
Area | 120 ตารางเมตร
Photographs | Yongjoon Choi
หากพูดถึงสไตล์การตกแต่งร้านกาแฟที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง ‘คาเฟ่เกาหลี’ ภาพจำแรกของเราคงเป็นความน่ารักมุ้งมิ้งที่ตกแต่งด้วยโทนสีชมพูพาสเทล ติดป้ายไฟนีออนต่างๆบ่งบอกความเป็นเกาหลีใต้ได้ดี แต่หารู้ไม่ว่ายังมีคาเฟ่ที่สามารถแสดงตัวตน นำเสนออีกหนึ่งภาพจำของเกาหลีที่แตกต่างออกไปได้ดี อย่าง “Seoul Coffee Café” คาเฟ่ที่ใช้ความสวยงามของสถาปัตยกรรมเกาหลีท้องถิ่นโบราณ มาแปลงโฉมให้กลายเป็นพื้นที่ร่วมสมัย โดยการบรรจุความคลาสสิคของโครงสร้าง วัสดุ และสิ่งของ ผสมผสานเข้ากับการออกแบบในยุคสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
Seoul Coffee Café ตั้งอยู่ในย่าน Ikedon-dong กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งสถาปนิกจากบริษัท LABOTORY ได้นำบรรยากาศจากยุค 80 และ 90 กลับมาไว้ยังภายในร้านด้วยการรีโนเวท “Hanok” หรือบ้านเกาหลีโบราณ ที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในย่านนี้ โดยการคงซึ่งไว้องค์ประกอบในสมัยก่อนในบางส่วน มาสร้างสรรค์อนาคตที่ให้ความรู้สึกหวนนึกถึงอดีต
– ทำลายกำแพง แทนที่ด้วยความโปร่งใส –
เดิมทีโครงสร้างของบ้านหลังนี้ไม่ได้ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นร้านกาแฟเท่าใดนัก เพราะผนังค่อนข้างทึบ ไม่มีพื้นที่รองรับในการนั่งจิบกาแฟเพื่อซึบซับบรรยากาศแห่งการพักผ่อน อีกทั้งยังไม่มีแสงธรรมชาติที่เพียงพอต่อการใช้งาน ดังนั้นสถาปนิกจึงตัดสินใจรื้อผนังที่กั้นพื้นที่ทั้งหมดออก คงไว้แต่เพียงประตูทางเข้าหลักที่เป็นดั่งฉากกั้นระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ด้วยกันผ่านความรู้สึกและการสัมผัสด้วยสายตา รวมถึงการเปิดรับบริบทภายนอกได้ดียิ่งขึ้น
แปลนคาเฟ่ที่จัดสรรพื้นที่ใหม่ ทำลายกำแพงเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ให้สามารถมองทะลุผ่านจากหน้าบ้านไปยังหลังบ้านได้
ซึ่งไม่เพียงแต่การเปลี่ยนผนังเก่าหน้าร้านเป็นกระจกใสที่ขนาบข้างประตูไม้ทางเข้าหลักเอาไว้ แต่หากยังใช้ความโปร่งใสนี้แทนที่ฝ้าเพดาน และหลังคาบางส่วนด้วยเช่นกัน เพื่ออนุญาตให้แสงจากธรรมชาติสาดส่องเข้ามาสู่ภายในได้อย่างเต็มที่ ทำให้พื้นที่โปร่งโล่งน่าใช้งานมากขึ้น
มุมมองของพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้าร้านที่ออกแบบเป็นรูปตัวแอล ซึ่งเปิดโอกาสในการรองรับลูกค้าให้นั่งสัมผัสบรรยากาศความดั้งเดิมนี้ได้มากกว่าการจัดวางโต๊ะและเก้าอี้ธรรมดา
– เก็บเรื่องเก่า และเล่าเรื่องใหม่ –
เจ้าของและสถาปนิกพยายามที่จะเก็บรักษาทุกส่วนไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเสาไม้ คานไม้ และฐานปูนรองเสา ซึ่งในส่วนที่ชำรุด ผุพัง ได้มีการซ่อมแซมเพิ่มเติมเข้าไป
อย่าง เสาไม้ที่ผุพังไปตามกาลเวลาถูกซ่อมแซมด้วยไม้ต่างสีกัน ซึ่งทำให้สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่คงเดิมและเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมใหม่เข้าไป เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างกันและกัน
ซึ่งในระหว่างขั้นตอนการรื้อกำแพง ก็ได้ค้นพบว่า มีการปูพื้นด้วยวอลล์เปเปอร์หลายชั้นมาก และแพทเทิลลายต่างๆที่เกิดขึ้นจากการลอกถูกคงไว้ เหมือนเป็นการสร้างมิติใหม่จากความดั้งเดิมที่สวยงามโดยบังเอิญ และโต๊ะกลมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่แต่ใช้วัสดุโทนเดียวกับวัสดุที่มีอยู่เดิม
– ภาพจำกับความคลาสสิค –
เมื่อปรับโครงสร้างในการรีโนเวทแล้ว สถาปนิกยังได้บรรจุรายละเอียดการตกแต่งภายในใหม่ อย่าง องค์ประกอบจากร้านทำผม อย่าง “ป้ายร้านทำผม” ในช่วงยุค 80 และ 90 ซึ่งสามารถหาได้ยากในปัจจุบัน โดยนำป้ายมากลับด้านจากแนวตั้งเป็นแนวนอน แล้วนำมาติดเหนือประตูทางเข้าของร้าน เพื่อให้เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์เด่นของร้านกาแฟแห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีการนำวัสดุอื่น ๆ มาใช้เพื่อให้เกิดความรู้สึกนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ อย่าง บล็อคแก้ว วัสดุที่ในอดีตนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายกับห้องน้ำ โรงพยาบาล หรือทางเดินตามตึกทั่วไปในปลายยุค 90 ถูกนำมาใช้แบ่งสัดส่วนพื้นที่ระหว่างส่วนเคาน์เตอร์บาร์และที่นั่งทานกาแฟให้มีความลงตัวมากขึ้น
– เกาหลี ที่แตกต่าง –
สร้างเอกลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็น “เกาหลี” ในมุมมองใหม่ที่มีความแตกต่างจากความเป็นเกาหลีในเอเชียธรรมดา โดยเน้น “ความเป็นธรรมชาติ” จากการใช้วัสดุที่สื่อถึงความเป็นเกาหลี เช่น เส้นแบ่งระหว่างหินแกรนิตที่แตกต่างกันบนพื้น เพื่อให้เกิดการเชื่อมระหว่างพื้นที่ภายในและเส้นแบ่งด้านนอกอย่างไม่มีแพทเทิล
ด้านหลังของคาเฟ่มีโต๊ะนั่งที่ชวนเพลิดเพลิน เสมือนได้สัมผัสกับบ้านเกาหลีดั้งเดิมจริงๆ
ถึงแม้ว่าภาพจำของคาเฟ่เกาหลีจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและกาลเวลา แต่ถึงอย่างไรเอกลักษณ์ภายใต้สถาปัตยกรรมเกาหลีโบราณหลังนี้ ยังคงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่พยายามถ่ายทอดให้เห็นถึงความสอดคล้องระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่ที่เรียบง่ายอย่างลงตัว และยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนในย่านนี้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจาก Archdaily และ Designboom