OPENING HOURS: MONDAY – SUNDAY: 10.00 AM TO 8.00 PM

info@sitename.com | 987654321

Design Makes A Better Life.

Design Makes A Better Life.

Norman Foster สถาปนิกที่สร้างสรรค์เทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อสิ่งแวดล้อมและความสมบูรณ์แบบ

ผู้สร้างสถาปัตยกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหา

Norman Foster สถาปนิกชาวอังกฤษ ผู้ใช้นวัตกรรมล้ำสมัยและใส่ใจถึงสภาพแวดล้อมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ โดย Foster + Partners คือออฟฟิศของเขา ที่มีทั้งความทันสมัยและมีผลงานหลากหลายแบบ โดยผลงานแต่ละชิ้นนั้นสามารถจุดประกายความเคลื่อนไหวต่อวงการสถาปัตยกรรมได้อย่างน่าสนใจ

Spaceport America

Norman Foster เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ปี 1935 ที่เมือง Manchester ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เขาจบการศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย Manchester University School of Architecture and City Planning ในปี 1961 เขาได้รับทุน Henry Fellowship เพื่อเรียนต่อปริญญาโทสาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัย Yale University และที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เขาได้พบกับเพื่อนผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Foster + Partners นี่เอง โดยก่อนที่เขาจะก่อตั้งบริษัท เขาได้ตระเวนดูงานสถาปนิกชื่อดังอย่าง Mies Van de Rohe, Louis Kahn และ Frank Lloyd Wright เป็นระยะเวลาทั้งหมด 1 ปี ก่อนจะกลับมาเปิดบริษัทที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ

Norman Foster และโปรเจค Apple studio Champs Élysées

“ความยั่งยืนคือหัวใจในการออกแบบสถาปัตยกรรมของ Foster + Partners แน่นอนว่าผมคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันก็ใส่ใจถึงสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้สตูดิโอเราพิเศษ คือการออกแบบ แบบองค์รวมกับการนำนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้เป็นแนวทาง เพื่อสร้างความยั่งยืนและพัฒนาสิ่งแวดล้อมในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น” Norman กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของ Norman + Partners

Vieux Port Pavilion

ผลงานของ Foster นั้นจะมีหลากหลายรูปแบบ เช่น เขาได้ออกแบบอาคารออฟฟิศสูงระฟ้า ออกแบบแกลเลอรี สนามบิน สนามกีฬา อาคารรัฐสภา ผังเมือง หรือแม้แต่ท่าเรือ เป็นต้น ถึงแม้เขาจะมีผลงานที่หลากหลาย แต่สิ่งที่คล้ายกันคือการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาสร้างความโดดเด่นให้เข้ากับการใช้งานอาคารแต่ละประเภท เสมือนการหลอมรวมนวัตกรรมและสถาปัตยกรรมเข้าไว้ด้วยกัน เป็นการสร้างความเคลื่อนไหวและผลักดันขอบเขตความเป็นไปได้ในการสร้างอาคารให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น เช่น Apple Campus Building และ Masdar City หรือเมืองที่สร้างจากพลังงานยั่งยืนแห่งแรกของโลก

New German Parliament

หลังจากก่อตั้งบริษัทในปี 1960 Foster + Partners ก็ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เช่นได้รับ 2 รางวัลจาก Stirling Prize เหรียญทองจาก RIBA และ AIA มากไปกว่านั้นเขายังได้รับรางวัล Pritzker Prize หรือรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดในแวดวงสถาปัตยกรรม เมื่อปี 1999 จากการออกแบบ Hongkong and Shanghai Bank, The Gherkin ในลอนดอน และ The Hearst Tower ในนิวยอร์กอีกด้วย ซึ่งรางวัลต่างๆ นี้ ล้วนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยการันตีความยิ่งใหญ่ของสถาปนิกท่านนี้ได้เป็นอย่างดี

Wembley National Stadium

คณะกรรมการผู้ตัดสินรางวัล Pritzker Prize ได้กล่าวไว้ว่า “จากโปรเจคต่างๆ ของเขา เราก็เห็นชัดแล้วว่าเขาสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งส่งผลให้เขาบรรลุเป้าหมายในการออกแบบได้อย่างน่าสนใจ เปรียบเสมือนเขาได้อุทิศตนให้กับงานออกแบบ ด้วยการจุดประกายความเคลื่อนไหวในวงการสถาปัตยกรรมจากการใช้เทคนิคและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี่เอง”

The Tulip

Location: London, UK

Foster + Partners ได้ออกแบบโปรเจคอาคารแห่งใหม่ The Tulip ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งอาคารแห่งนี้ถูกคาดหวังไว้ว่าจะเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยว วัฒนธรรมในเมือง และยังช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมรอบข้างให้พัฒนามากขึ้น โดย The Tulip เป็นอาคารที่สูงถึง 240 เมตร และในส่วนชั้นบนสุด จะมีจำนวนชั้นทั้งหมด 12 ชั้น ซึ่งมีรูปร่างโดดเด่นคล้ายกับดอกทิวลิปอยู่ด้านบน

Sky Bridges, Internal Glass Slides

ณ ความสูง 300 เมตร หรือบนยอดตึกถูกออกแบบให้เป็นจุดชมทิวทัศน์ ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์ ซึ่งสามารถรองรับผู้ใช้งานได้ถึง 1,500 คน นอกจากนั้นยังมี ‘Classroom in the sky’ หรือห้องเรียนบนท้องฟ้า ซึ่งมอบสิทธิพิเศษให้นักเรียนโรงเรียนรัฐบาลในลอนดอน สามารถมานั่งเรียนแบบไม่มีค่าใช้จ่ายจำนวน 20,000 ที่นั่งต่อปี

Gondola Pod ในส่วนฟาซาดอาคาร

Bloomberg

Location: London, UK

สำนักงานใหญ่ของบริษัท Bloomberg ในลอนดอน  เป็นอาคารที่ตั้งคั่นกลางระหว่างธนาคารแห่งชาติลอนดอน และโบสถ์ Saint Paul โดยเป้าหมายในการสร้าง Bloomberg  คือการสนับสนุนศิลปะที่ผสานรวมกับงานสถาปัตยกรรม โดยมีสะพานขนาดใหญ่กลางอาคารเชื่อมต่อแต่ละสเปซไว้ด้วยกัน มากไปกว่านั้นภายนอกอาคารยังมีพื้นที่สาธารณะกลางแจ้งขนาดใหญ่ถึง 3 แห่ง โดยทางเดิน 2 ใน 3 จะนำผู้ใช้งานเข้าสู่โซนร้านอาหารและคาเฟ่ในบริเวณชั้น 1

Bloomberg เป็นอาคารที่ถูกนำมาใช้เป็นตัวอย่างในการออกแบบการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน สำหรับอาคารประเภทออฟฟิศ โดยอาคารแห่งนี้ไม่เพียงแต่ออกแบบเพื่อให้คงทนต่อสภาพภูมิอากาศของอังกฤษที่ค่อนข้างแปรปรวนแล้ว ยังมี Façade ที่สามารถประยุกต์ใช้ตามสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนตามแต่ละวันอีกด้วย

เมื่อสังเกตดูจะพบว่าส่วน Façade มีลักษณะเป็นแผงสีทองแดง ซึ่งทางสถาปนิกออกแบบให้แผงนี้สามารถเคลื่อนตัว เปิด ปิด เองได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่อุณหภูมิภายนอกสูงขึ้น แผงนี้ก็จะเคลื่อนตัวเปิดเพื่อให้เกิดการถ่ายเทอากาศ สร้างการไหลเวียนอากาศในอาคาร และส่วนภายในของแผงทองแดงยังมีหน้าที่ช่วยซับเสียงจากภายนอก (Acoustic) สร้างสภาวะการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดให้กับผู้ใช้งาน

Forgotten Streams

ภายในอาคารมีงานศิลปะจาก Cristina Iglesias 3  ชิ้น ซึ่งตั้งกระจายตามพื้นที่ต่างๆ ผลงานนี้มีชื่อว่า ‘Forgotten Streams’ เป็นงานประติมากรรมที่เล่าเกี่ยวกับเรื่องราวการไหลผ่านของแม่น้ำ Walbrook ที่ในอดีตเคยไหลผ่านบริเวณที่ตั้งอาคาร และนอกจากนั้นภายในอาคารยังมีงานศิลปะจากศิลปินต่างๆ อีกมากมาย อาทิ Michale Craig Martin, Olfur Eliasson, Arturo Herrera เป็นต้น

Apple Piazza Liberty

Location: Milan, Italy

Norman + Foster ได้ถูกคัดเลือกให้ออกแบบอาคารของ Apple Store หลายแห่งด้วยกัน โดย Apple Store แห่งนี้ตั้งอยู่บนถนน Corso Vittorio Emanuele เป็นถนนที่ผู้มาเยือนเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ไม่ควรพลาด โดย Foster ออกแบบอาคารให้มีรูปลักษณ์เหมือนน้ำพุแก้ว และด้านหลังอาคารเป็นอัฒจันทร์กลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่ปูด้วยหิน Beola Grigia หรือหินที่ใช้ปูทางเดินทั่วเมืองมิลาน โดยอัฒจันทร์นี้มีไว้ใช้สำหรับการพบปะ สังสรรค์ และจัดกิจกรรมต่างๆ ของทาง Apple นั่นเอง

เมื่อผู้ใช้งานเดินผ่านน้ำพุจากแก้วขนาดใหญ่แล้ว จะพบกับบันไดที่นำพาไปสู่ร้านค้า Apple Store ซึ่งแอบซ่อนตัวอยู่ใต้ดินของน้ำพุ และมีการตกแต่งบรรยากาศภายในร้านด้วยสไตล์เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความอบอุ่น เชิญชวนผู้เข้าใช้งาน

จะเห็นได้ว่าสไตล์งานของ Norman Foster จะไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่คล้ายกัน คือการนำพาเทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วยออกแบบอาคารให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งหลักการนี้เป็นสิ่งที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าสถาปัตยกรรมแล้ว ก็ควรเป็นอาคารที่สร้างความสมดุลให้กับการใช้ชีวิต ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก fosterandpartners, designboom, archdaily, pritzkerprize, thetimes