บรรจุสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ลงในพื้นที่ร่องรอยประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมจีน
Nanxianglou Art Hotel
Location: Gankeng Old Town, Shenzhen, Guangdong, China
Architects: PleasantHouse Design
Photographs: En Xiao
“Nanxianglou” หนึ่งในจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดใน “Gankeng” หมู่บ้านอันเก่าแก่ของเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้งแห่งประเทศจีน ที่มีความโด่งดังในเรื่องวรรณกรรม ศิลปะ วัฒนธรรมไปจนถึงสถาปัตยกรรมอันสวยงามเก่าแก่ ซึ่ง “Nanxianglou Art Hotel” ก็เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ตั้งอยู่ภายใต้พื้นที่ร่องรอยประวัติศาสตร์แห่งนี้ และเมื่อไม่นานมานี้ PleasantHouse Design สถาปนิกจีนที่สร้างบทสนทนาระหว่างสถาปัตยกรรมเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความสวยงามของบริบท พร้อมกับชมสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า และค้นหาความหมายทางวัฒนธรรมที่แอบแฝงอยู่ภายใน
วัฒนธรรมชาวจีนแคะ และสถาปัตยกรรมดั้งเดิม
สถาปัตยกรรมที่มีอยู่เดิมนั้น มีอาคารสองหลัง ซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมทั้งสองหลังมาจากสถาปัตยกรรมจีนพื้นถิ่น สังเกตได้จากการใช้วัสดุอย่างผนังกระเบื้องสีเทา ประตูไม้ที่มีความหนาพิเศษ โครงสร้างและคานเป็นโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และลักษณะของหลังคาแบบจีนทีโดดเด่นด้วยรูปทรงมุมปลายหลังคาที่เชิดสูงขึ้นฟ้า ซึ่งทั้งหมดถูกหล่อหลอมขึ้นมาตามแบบฉบับของชาวฮักก้า หรือคนเชื้อสายจีน ที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “จีนแคะ” ชนชาติพื้นเมืองของที่แห่งนี้นั่นเอง
ในส่วนของอาคารด้านขวา ชั้นล่างมีเสาไม้กลมขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักของโครงสร้างอาคาร ผนังกระเบื้องหิน และบานประตูไม้ที่มีรูปแบบตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมจีน ส่วนด้านบนเป็นระเบียงกว้าง ที่มีสถาปัตยกรรมจีนพื้นถิ่นเล็กๆ สองหลังตั้งอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสงดนิทรรศการ
ส่วนอาคารทางด้านซ้าย เป็นอาคารสามชั้น ชั้นล่างสุดเป็นส่วนต้อนรับ ร้านอาหาร และร้านค้า ส่วนชั้นสองและชั้นสามเป็นห้องพักทั้งหมด 52 ห้อง โดยรูปแบบทั้งภายในและภายนอกถูกรีโนเวทใหม่ทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ดีมากขึ้น มีเพียงชั้นล่างสุดที่ยังคงผนังหินไว้ในรูปแบบเดียวกับอาคารอีกหลัง
ด้านหลังของอาคารถูกออกแบบให้มีพื้นที่ทางเดินยาวติดกับแม่น้ำ
แปลนชั้นล่างสุดของโรงแรม
แปลนชั้นสองของโรงแรม
เติมเต็มช่องว่างระหว่างสถาปัตยกรรม
Put two glass volumns into traditional
สถาปัตยกรรมใหม่ในรูปแบบของเรือนกระจกรูปทรงพีระมิดที่สถาปนิกได้ทำการสอดแทรกเข้ามาภายในโรงแรม เป็นส่วนต่อขยายที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ระหว่างอาคารดั้งเดิมทั้งสอง เสมือนตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ของอาคารเก่าเข้าด้วยกัน ออกแบบให้เป็นโครงสร้างเหล็กและวัสดุมุงหลังคาเป็นกระจกใสทั้งหมด ทำให้พื้นที่ดูเปิดโล่งและแสงสามารถผ่านเข้ามาได้ทั่วทั้งพื้นที่ในเวลากลางวัน
พื้นที่ภายในเปิดโล่ง เพื่อเชื่อมต่อกับ Art bookstore และส่วนต้อนรับของโรงแรม ซึ่งข้อดีของการที่รูปทรงพีระมิดของเรือนกระจกนี้ นอกจากจะสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนให้สถาปัตยกรรมเก่าและใหม่แล้ว ยังช่วยให้ห้องพักชั้นสองและชั้นสามบนอาคารเก่าด้านที่ติดกัน สามารถเปิดหน้าต่างและชมทัศนียภาพโดยรอบได้
นอกจากนี้ยังมีเรือนกระจกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กตั้งอยู่ระหว่างสถาปัตยกรรมเล็กๆสองหลังบนอาคารเก่าทางขวามือ กรุกระจกใสล้อมรอบกรอบบานไม้เพื่อให้เกิดความกลมกลืน ออกแบบแสงภายในส่องสว่างในยามค่ำคืนเพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่างสถาปัตยกรรมให้สมบูรณ์มากขึ้น
หลากหลายแต่ลงตัว
การตกแต่งภายในเป็นไปในรูปแบบทันสมัย มีความหลากหลาย ทั้งรูปแบบเส้นสายที่มีความโค้ง วงกลม และเฟอร์นิเจอร์ พรมที่มี่สีสัน ดูโฉมเฉี่ยวและมีดีไซน์ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับโรงแรมแห่งนี้ ในส่วนของห้องพักโรงแรม ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 52 ห้อง มี 3 รูปแบบ จัดวางกระจายออกรอบตัวอาคาร เพื่อให้ทุกห้องมีช่องเปิดสู่ภายนอก โดยออกแบบลิฟท์และบันไดให้อยู่ตรงส่วนกลางของอาคาร ทำหน้าที่โครงสร้างไปด้วย
การตกแต่งภายในส่วนล็อบบี้
โถงลิฟท์และบันไดที่ด้านบนมีสกายไลท์ เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาสู่พื้นที่ภายในได้
แปลนห้องพักทั้ง 3 รูปแบบของโรงแรมที่ตกแต่งด้วยหลากหลายสีสันและวัสดุ
ภาพภายในห้องพัก กับการตกแต่งในมุมมองที่แตกต่าง เพื่อสร้างความหลากหลายทางการออกแบบ และดูสนุกสนานต่างจากภายนอกที่ดูนิ่งสงบ
ความหมายที่แอบแฝงอยู่ภายในสถาปัตยกรรมเก่าและใหม่นี้ คงเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากความหลากหลายที่สะท้อนออกมา ผ่านยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป สถาปัตกรรมพื้นถิ่นที่เก่าแก่เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การรักษา แต่หากการออกแบบที่บรรจุสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ลงไปในสถาปัตยกรรม โดยสร้างความแตกต่าง แต่กลับเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในเรื่องของพื้นที่ การใช้งาน และความสวยงามแล้วนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเปลี่ยนแปลง
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก Archdaily