ความสุขของการได้เหม่อมองธรรมชาติ ทักทายกับสัตว์เพื่อนบ้านตัวเล็ก และสัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่ประณีตทุกรายละเอียด
Location: ถนนเพชรบุรี 49 กรุงเทพฯ
Owners: คุณศิริโรจน์ และคุณผกาพรรณ อรรถวิภัชน์
Architects: คุณศิษฏ์ และคุณปรีชญา ธีระโกเมน, agaligo studio
เมื่อเข้ามาในซอยเพชรบุรี 49 ประสบการณ์แรกที่สัมผัสได้นั่นคือความสงบ ร่มรื่นจากต้นไม้เขียวขจีหลากสายพันธ์ รวมทั้งได้พบเจอกับสัตว์เจ้าถิ่นตัวเล็กมากมาย ซึ่งดูตรงข้ามกันกับความวุ่นวายจากถนนเส้นหลักด้านนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินเข้ามาจนเกือบท้ายซอย ก็จะพบกับ Little Friends Beyond B&B ร้านกาแฟ และ Bed & Breakfast ในบรรยากาศเรียบง่าย เป็นกันเอง
โดยมีคุณศิริโรจน์ และคุณผกาพรรณ อรรถวิภัชน์เป็นเจ้าของ Little Friends Beyond B&B พวกเขาต้องการแบ่งปันสภาพแวดล้อมเรียบง่าย สวยงามในพื้นที่แห่งนี้ จึงตัดสินใจแบ่งส่วนพื้นที่บ้าน และสร้าง B&B ให้กลายเป็นบ้านสวนหลังเล็กๆ สำหรับลูกค้าที่มองหาสถานที่เงียบสงบ หลีกหนีความวุ่นวาย เป็น Hidden Place ท่ามกลางเมืองใหญ่
Little Friends Beyond B&B เป็นอาคาร 3 ชั้นเล่นระดับ ขนาด 325 ตารางเมตร ชั้นล่างเป็นร้านกาแฟรวมกับส่วนต้อนรับ ชั้นบนเป็นห้องพักซึ่งมีชั้นละ 1 ห้อง และชั้นบนสุดเป็น Rooftop Terrace สำหรับกินเลี้ยงสังสรรค์และปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งแนวคิดหลักในการออกแบบที่พักก็มาจากบริบทและเรื่องราวของสัตว์เจ้าถิ่นนี่เอง
ในการสร้างสรรค์ครั้งนี้ มีคุณปรีชญา และคุณศิษฏ์ ธีระโกเมนจาก agaligo studio เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ
“Entering our secret garden and stay with our little friends” คุณปรีชญา กล่าวถึงแนวคิดหลักของ Little Friends Beyond B&B
ความคลุมเครือ สร้างความโดดเด่น
คุณปรีชญาและคุณศิษฏ์ ตั้งใจสร้างความไม่ชัดเจนระหว่างส่วน Public Space และ Private Space โดยสร้างความคลุมเครือระหว่างการใช้งาน เช่น ผู้คนมักจะสงสัยว่าสถานที่แห่งนี้คือร้านกาแฟหรือบ้านส่วนบุคคล รั้วบ้านอยู่ตรงไหน มีส่วนภายนอกและภายในหรือเปล่า ทั้งหมดนี้เป็นลูกเล่นเล็กๆ ที่ทำให้ Little Friends Beyond B&B โดดเด่นออกมาจากบริบทรอบข้าง ช่วยกระตุ้นความอยากรู้กับผู้คนในชุมชน จนกลายเป็นคำเชิญชวนให้ลองแวะเวียนเข้ามาในท้ายที่สุด
ธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรม
เมื่อต้นไม้และสัตว์ตัวเล็กเป็นแนวคิดในโครงการ ธรรมชาติจึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ สถาปนิกจึงเกิดไอเดียแบบซื่อตรงขึ้นมาว่า ถ้าสถาปัตยกรรมกลายเป็นดั่งต้นไม้ใหญ่ คอยให้ที่พักพิงแก่เพื่อนตัวเล็กๆ เช่น กระรอก ผีเสื้อ นก กบ จะเป็นอย่างไร และถ้าส่วนประกอบของต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็น กิ่ง ก้าน ใบ สามารถแปรเปลี่ยนเป็นสเปซสร้างความร่มรื่น เกิดบรรยากาศและมุมมองที่แตกต่างกันได้ก็คงจะดีไม่น้อย
และจากแนวคิดอาคารอาคารในตอนแรก ก็ถูกนำมาพัฒนาจนกลายเป็น Little Friends Beyond B&B อย่างเป็นรูปธรรม
การเลือกใช้วัสดุล้วนอิงจากแนวคิดธรรมชาติด้วยเช่นกัน โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลักเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นมิตรกับธรรมชาติ เช่น ใช้ไม้ซีดาร์ป่าปลูกเผาผิวจากญี่ปุ่น ใช้อิฐที่มีต้นกำเนิดจากดิน และส่วนประกอบหรือโครงสร้างอื่นๆ จะเป็นเหล็ก เพราะสามารถนำไป Recycle ใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ อย่างไม่จบสิ้น เป็นการออกแบบ Urban Garden Home สร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่กลมกลืนกับธรรมชาติในเมืองใหญ่
เมื่อสถาปัตยกรรมเปรียบดั่งต้นไม้ใหญ่ ลำต้น กิ่งไม้ที่ดูเหมือนไร้ทิศทางก็ส่งผลต่อการออกแบบทางเดินบันไดที่ไม่ชัดเจน หักเลี้ยวต่างกัน และจากชานพักบันไดในอาคารทั่วไป ก็แปรเปลี่ยนเป็นมุมนั่งเล่น มุมอ่านหนังสือที่มีอยู่ในทุกๆ ชั้น ก่อนลูกค้าจะเดินเข้าห้องพักส่วนตัว
นอกจากพื้นที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนต้อนรับแล้ว ยังเป็นร้านกาแฟขนาดเล็ก ขายเครื่องดื่ม เบเกอร์รี่โฮมเมด และเป็นที่พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิดของคนในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย โดยมีคอร์ทยาร์ดปลูกต้นไม้กลางพื้นที่ เพื่อหยิบยืมทิวทัศน์จากภายนอกมาใช้ อีกทั้งยังช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติและสายลม สร้างบรรยากาศร่มรื่นให้กับพื้นที่บริเวณนั้นนั่นเอง
ห้องพักจากสัตว์ตัวเล็ก
ถ้าเดินขึ้นบันไดจากส่วนร้านกาแฟ ก็จะพบกับห้องพักที่กระจายตัวตามแต่ละชั้น ซึ่งชั้น 2 เป็นห้องพักขนาด 48 ตารางเมตร เป็นห้องที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘กระรอก’ ซึ่งมีนิสัยสนุกสนาน ซุกซน ชอบหยิบยืมและสะสมของแปลกๆ ผู้ออกแบบจึงตกแต่งห้องด้วยโทนสีน้ำตาล ขาว สื่อถึงกิ่งไม้ ท่อนไม้ ที่กระรอกใช้เวลาอยู่ด้วยนานที่สุด เพิ่มเติมด้วยของตกแต่งสีสันสดใส หลากหลายลวดลาย ตามแต่สิ่งของที่กระรอกมักหยิบยืมมาใช้
แตกกิ่งแยกสูงขึ้นไปเป็นห้องของ ‘ผีเสื้อ’ ผู้รักสวยรักงาม สีสันฉูดฉาด ชอบแต่งตัว จึงตกแต่งด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์สีสดใส เช่น ประตูสีบานเย็น เก้าอี้สีนำเงินสลับกับลายดอกไม้ ม่านกำมะหยี่สีฟ้า กราฟฟิตี้ลายดอกไม้ และแชนเดอเลียร์สวยงามวิจิตร โดยห้องผีเสื้อจะมีขนาด 30 ตารางเมตร และมีห้องแต่งตัวอีกด้วย
มากไปกว่านั้นยังมีทางเดิน Foyer เล็กๆ ก่อนเข้าห้อง เป็นพื้นที่เปิดรับแสงแดด สายลม และสายฝน เพื่อแยกห้องผีเสื้อออกจากตัวอาคารหลัก เสมือนเป็นบ้านส่วนตัวของแขกผู้เข้าพัก
ผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องรูปร่างแปลกตา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบขยายของปีกผีเสื้อนั่นเอง
ห้องพักชั้นบนสุดมีขนาด 52 ตารางเมตร และใช้ฝ้าสูงเอียงแนบหลังคา สร้างบรรยากาศโปร่ง โล่งในการพักอาศัย โดยการตกแต่งได้นำเอกลักษณ์จาก ‘นกกางเขน’ ผู้มีรสนิยมและสง่างามมาใช้ จึงเลือกใช้โทนสีขาว ดำ สื่อถึงความเรียบหรู โมเดิร์น และเล่นกับเส้นสายสีขาวสลับดำบนผนังรอบห้อง
ผ้าม่านภายในห้องพักจะเป็นสีน้ำเงินเข้มลักษณะมันวาว ซึ่งดูคล้ายกับปีกนกกางเขน
บริเวณขอบหน้าต่างในห้องนกกางเขนถูกออกแบบให้เป็นกล่องเหล็กพับ เพื่อสร้างโต๊ะทำงาน Built – in โดยผู้ใช้งานจะรู้สึกราวกับได้นั่งอ่านหนังสือในขอบหน้าต่างเลยทีเดียว
ส่วน Rooftop จะมีการปลูกพืชผัก สวนครัว และเตรียมพื้นที่สำหรับแคมป์ปิ้งขนาดเล็ก เพื่อชมทิวทัศน์กว้างไกลในยามค่ำคืน
ความเหมือนในความแตกต่าง
ถึงแม้ว่าห้องพักจะตกแต่งไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่คล้ายกันในทุกๆ ห้อง คือจะมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่หยิบยืมทิวทัศน์จากภายนอกมาใช้ ทั้งนี้เป็นเพราะตัวอาคารมีพื้นที่จำกัด การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่นให้ภายในอาคาร และรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
ห้องกระรอกและนกกางเขนจะมีส่วนอาบน้ำภายนอกที่ใช้ขันตักจากโอ่งมังกร เป็นการจำลองอิริยาบทของคนไทยสมัยก่อน ให้ผู้เข้าพักได้ลองสัมผัสถึงวิถีชีวิตแบบไทยๆ
มากไปกว่านั้นในห้องพักทุกห้องจะมีที่นั่งอ่านหนังสือและโต๊ะทำงานชิดติดริมหน้าต่าง คล้ายกับบ้านสวนสมัยก่อนที่เรามักจะเหม่อมองชมทิวทัศน์ออกไปข้างนอกระหว่างการนั่งอ่านหรือเขียนหนังสือ เป็นความสุขเรียบง่ายซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน
เก้าอี้หวายจากฝีมือชาวบ้าน กระทะหอยทอด และอ่างล้างหน้าที่ทำโดยช่างตีบาตร เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก ที่แสดงความเป็นไทยและสร้างการรับรู้ให้กับชาวต่างชาติเมื่อเข้ามาพัก
แม้จะมีห้องพักเพียง 3 ห้อง แต่ที่ Little Friends Beyond B&B ก็เต็มไปด้วยคุณภาพและเรื่องราวการออกแบบชวนติดตาม ไม่ว่าจะเป็นบริบท แนวคิด การออกแบบ และการตกแต่งที่ชวนให้เกิดความสงบ ผ่อนคลาย จนกลายเป็นสถานที่พักผ่อนในวันหยุด ที่ทำให้หลงลืมความวุ่นวายจากภายนอก ได้อยู่กับตัวเองและเกิดความสุขจากบรรยากาศที่เรียบง่าย ณ Little Friends Beyond B&B แห่งนี้
Map: