Location : ปากเกร็ด นนทบุรี
Area : 420 ตารางเมตร
Architect : Archimontage Design Fields Sophisticated
Photographs : DOF Sky|Ground
หากผลลัพธ์จากแสงธรรมชาติคือทำให้บ้านดูสวยงามมีมิติมากยิ่งขึ้น สำหรับคุณเชิงชาย เรียวเรืองแสงกุล สถาปนิกแห่ง Archimontage Design Fields Sophisticated แล้ว ผลลัพธ์จากแสงธรรมชาติ ยังคือการสร้างเรื่องราวบางอย่างให้กับบ้าน ไปพร้อมๆกับทำให้คุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยดีขึ้น ซึ่งการออกแบบบ้าน ‘Pakkret House’ หลังนี้ก็ได้รวมทั้งสองผลลัพธ์ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ผ่านภาษาทางสถาปัตยกรรมที่สนทนากับแสงแดดอย่างไม่ใช่ผลพลอยได้ แต่เป็นสิ่งที่ในฐานะผู้ออกแบบจงใจสร้างขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
เนื่องจากเจ้าของบ้านมีความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ ภายใต้เงื่อนไขที่อยากอยู่ใกล้บ้านหลังเดิมของคุณพ่อคุณแม่ จึงตัดสินใจซื้อที่ดินเปล่าถัดจากบ้านหลังเก่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามหลังตลาดสหกรณ์ 3 ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ที่มีผู้คนสัญจรไปมาไม่ขาดสาย และด้วยความที่หน้าบ้านหันออกไปทางทิศตะวันตกที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเต็มๆตลอดทั้งวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้อจำกัดทั้งหมดนี้จึงนำมาสู่โจทย์การออกแบบบ้านสองชั้นที่กรองได้ทั้งแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาเกินพอดี และกรองมุมมองสายตาจากผู้คนที่ผ่านไปมาหลังตลาดได้ในขณะเดียวกัน
สถาปนิกเริ่มต้นตีโจทย์และสร้างผลลัพธ์การออกแบบผ่านกำแพงสูงราว 7.5 เมตร ที่นับว่ามีสเกลใหญ่กว่าปกติมากเมื่อเทียบกับกำแพงบ้านทั่วไป โดยแบ่งย่อยเป็นส่วนๆให้มีความหลากหลายทั้งความกว้างและความหนา รวมถึงมีการจัดวางที่ทำมุมองศาให้แตกต่างอย่างไร้ทิศทาง ซึ่งเป็นความจงใจที่ต้องการสร้างร่มเงาให้กับบ้านและสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย และอีกความหมายหนึ่งก็ต้องการสร้างเรื่องราวพิเศษให้กับบ้าน ผ่านแสงที่ปรับเปลี่ยนความสวยงามต่างกันในแต่ละช่วงเวลา
“ฟาซาดนี้ก็เหมือนเป็นม่านขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเพื่อให้การอยู่อาศัยภายในบ้านเป็นไปตามโจทย์ที่เจ้าของบ้านต้องการมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่แสงปฏิบัติกับสถาปัตยกรรม คือ งานศิลปะ มันไม่ใช่ผลพลอยได้ แต่คือสิ่งที่เราตั้งใจอยากให้เกิดขึ้น” สถาปนิกกล่าวเกี่ยวกับการออกแบบทิศทางของแสงที่จะเข้ามาสู่ภายในบ้าน ซึ่งจะมีแสงบางส่วนที่ลอดผ่านช่องระหว่างฟาซาดมาจะตกกระทบลงสู่ลานคอนกรีต พื้นที่ที่ถูกเว้นว่างไว้ ก่อนจะเข้าสู่พื้นที่ภายในจริงๆนั่นคือ ห้องนั่งเล่นหลักของบ้าน เพื่อเว้นระยะการเดินทางของแสง รวมถึงชะลอไม่ให้แสงและความร้อนเข้าสู่ฟังก์ชันภายในโดยตรงมากเกินไป นอกจากนี้สถาปนิกยังออกแบบเส้นสายของแนวกระจกภายในบ้านและรั้วล้อไปกับรูปแบบกับตัวฟาสาดนี้ เพื่อเพิ่มมิติของแสงที่พาดผ่านเข้ามาอีกด้วย
ภายในจัดวางฟังก์ชันหลักอย่างส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนจัดเตรียมอาหารเชื่อมต่อกันแบบOpen plan และเป็นพื้นที่ Double Space เพิ่มความโปร่งให้กับบ้าน ส่วนด้านหลังเป็นส่วนของเซอวิสทั้งหมดได้แก่ ห้องครัว ห้องเก็บของ ห้องซักผ้า และพื้นที่ซักล้าง
แปลนบ้านปากเกร็ดชั้น 1 Credit: Archimontage Design Fields Sophisticated
แปลนบ้านปากเกร็ดชั้น 2 Credit: Archimontage Design Fields Sophisticated
ภายใต้การตกแต่งสไตล์ลอฟท์ที่เจ้าของบ้านชื่นชอบ ทำให้เราเห็นไม้ ปูนเปลือย เหล็ก และอิฐ เข้ามาเป็นส่วนผสมคละคลุ้งอยู่ทั่วทั้งภายในและภายนอกของบ้าน สถาปนิกออกแบบให้แต่ละพื้นที่ด้วยโทนสีเข้ม ดูสุขุม เท่ และอบอุ่น ส่วนตัวฟาซาดเองก็ถูกกรุด้วยกระเบื้องดินเผาสีน้ำตาลที่ให้อารมณ์เหมือนวัสดุอิฐก่อเช่นเดียวกับผนังภายใน ซึ่งข้อดีคือมีน้ำหนักเบาและเหมาะสมกับโครงสร้างเหล็กของฟาซาดที่มีความสูงระดับบ้านสองชั้นมากกว่า
ในเรื่องของโครงสร้างหลัก สถาปนิกเลือกใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กและโครงสร้างเหล็กผสมผสานกัน ส่วนตัวหลังคาเองก็มีสองรูปแบบเช่นกัน ซึ่งด้านหน้าใช้กระเบื้องลอนโปร่งแสง เพื่อให้แสงเข้ามาจากด้านบนแบบ Indirect Light ที่มีความนุ่มละมุนและสบายตา
นอกจากการออกแบบทิศทางของแสงธรรมชาติให้เข้ามาในตอนกลางวันแล้ว สถาปนิกยังออกแบบแสงไฟที่มากระทบตัวสถาปัตยกรรมไว้สำหรับยามค่ำคืนด้วย โดยจัดแสงไฟเน้นในส่วนฐานฟาซาดจากล่างขึ้นบน เพื่อให้บ้านดูมีมิติที่สวยงามในทุกช่วงเวลา แม้แสงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าไปแล้วก็ตาม
หลายครั้งที่แสงธรรมชาติมีอิทธิพลต่อการอยู่อาศัย ถ้าแสงแดดมากไปก็ร้อน แต่ถ้าน้อยไปก็อาจทำให้บ้านดูมืดทึบได้ และนี่คงเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ทำให้เรามองเห็นแนวทางในการสื่อสารจัดการกับแสงแดด สร้างความเป็นส่วนตัวได้อย่างพอดิบพอดี ไปพร้อมๆกับการนำแสงมาเพิ่มเรื่องราวลงไปให้ทุกพื้นที่ภายในบ้านมีความน่าสนใจและมีมิติมากยิ่งขึ้น