หลังจากที่เรานำเสนอวิธีการออกแบบอินทีเรียไปในครั้งที่แล้ว ครั้งนี้จึงขอเปลี่ยนย้ายฝั่งมาพูดถึงการออกแบบผังบ้านกันบ้าง เพราะเราคงต้องยอมรับแล้วว่า สถานการณ์ COVID-19 น่าจะยังคงอยู่กับเราไปอีกสักพักใหญ่ๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ก็คงจะเป็นการปรับตัว เปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมรับมือกับเจ้าเชื้อโรคชนิดนี้
ผังบ้านเดิมๆ ที่เราคุ้นชิน ทางเข้าบ้านที่เชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ห้องนั่งเล่นโดยตรง ห้องน้ำที่หลบมุมอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน อาจไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์กับยุค COVID-19 นี้อีกต่อไป เราลองมาดูกันดีกว่าว่าเจ้าเชื้อไวรัสนี้ จะเปลี่ยนผังบ้านแบบเดิมๆ ของเราไปอย่างไรบ้าง?
Photo Credits : https://nestingwithgrace.com
ต้อนรับเข้าบ้านด้วยห้องโถง แทนที่ห้องนั่งเล่น
ส่วนแรกที่กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการออกแบบบ้านในสถานการณ์ COVID คือโถงต้อนรับเล็กๆ ก่อนเข้าสู่พื้นที่หลักอย่างห้องนั่งเล่นของบ้าน ไม่ใช่เพื่อความหรูหราแต่อย่างใด แต่ห้องโถงที่ว่านี้จะรับหน้าที่เป็นตัวแสกน หรือจุดที่เราจะใช้ในการถอดรองเท้าเปลี่ยนรองเท้า หรือถอดเสื้อคลุม ทำความสะอาดเชื้อโรคที่อาจจะติดมากับเสื้อผ้าออกไปได้บางส่วน เพื่อลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคจากภายนอกจะกระจายเข้าสู่พื้นที่อยู่อาศัยในบ้าน
Dtips : ส่วนนี้เราอาจจะออกแบบตู้เก็บของ หรือตู้เสื้อผ้าสำรองเอาไว้ เพื่อใช้สำหรับการเปลี่ยน และควรมีถังขยะหรือที่จัดเก็บเสื้อผ้าใช้แล้ว แยกเอาไว้ให้เป็นระบบระเบียบ ก่อนจะนำไปสู่ขั้นตอนทำความสะอาดต่อไป เพื่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงสุด
ห้องน้ำหรืออ่างล้างมือในตำแหน่งสำคัญ
ปกติแล้วเราเคยชินกับการที่ห้องน้ำมักจะอยู่ในตำแหน่งลึกๆ ของบ้าน หรือไปแอบหลบมุมอยู่ในจุดที่ไม่ค่อยเห็น แต่เมื่อ COVID มาเยือน รับรองได้เลยว่า สิ่งเหล่านี้จะต้องเปลี่ยนไป ห้องน้ำที่เคยอยู่ลึกอาจจะต้องมีการย้ายตำแหน่งมาอยู่บริเวณถัดจากห้องโถง หรืออยู่ใกล้บริเวณทางเข้า ที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อที่จะได้ชำระร่างกายให้สะอาด ก่อนที่จะเข้าสู่พื้นที่ส่วนอื่นๆ ของบ้าน
อ่างล้างมือที่เคยอยู่เพียงแค่ในห้องน้ำ และห้องครัว อาจจะดีไซน์ให้สวยงาม และจัดวางในตำแหน่งสำคัญของบ้าน อย่างบริเวณห้องโถง ทางเข้าออก หรือจุดที่เราสามารถล้างทำความสะอาดได้โดยง่าย หรือหากบ้านไหนพอจะมีพื้นที่กว้างขวางสักหน่อย การออกแบบห้องน้ำแบบ Powder Room ไว้โซนเดียวกับห้องโถง ก็ถือว่าตอบโจทย์เรื่องความสะอาด และสถานการณ์ของยุคปัจจุบันได้ดีทีเดียว
ห้องครัวแบบปิด จะกลับมานิยมอีกครั้ง
หากลองสังเกต บ้านในปัจจุบันมักจะออกแบบห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหารและพื้นที่ครัวด้วยลักษณะเปิดโล่ง เชื่อมต่อกันแบบ Open Plan ซึ่งมีข้อดีที่เปิดระบายอากาศได้อย่างเต็มที่ ทำให้บ้านดูโล่ง โปร่ง แต่ก็มาพร้อมข้อเสียในเรื่องของเชื้อโรค ฝุ่นละอองที่พัดมาตามอากาศ และยังรวมถึงกลิ่นและควันที่จะรบกวนพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของบ้านอีกด้วย
ซึ่งเมื่อการรักษาสุขอนามัยกลายเป็นเรื่องสำคัญ การออกแบบผัง Open Plan ที่ว่านี้อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยปรับห้องครัวซึ่งเป็นแหล่งสร้างสรรค์เมนูและจานอาหารที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราโดยตรงให้อยู่ในลักษณะปิด เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และเพื่อการดูแลรักษาที่จะทำได้ง่ายกว่า
ในอีกมุมหนึ่งอาจมองได้ว่า สถานการณ์ COVID ทำให้ห้องครัวมีบทบาทสำคัญมากกว่าที่เคย เพราะยุคที่ออกไปไหนก็ไม่ปลอดภัยอย่างนี้ หลายคนคงเริ่มหันมาเข้าครัวทำอาหารรับประทานกันเองภายในครอบครัว เพื่อลดความเสี่ยงในการออกไปเผชิญเชื้อโรคต่างๆ ภายนอก ซึ่งก็ไม่แน่ว่าผังบ้านในอนาคต อาจจะมีสัดส่วนของห้องครัวที่ใหญ่และได้รับความสำคัญมากขึ้น
Photo Credits : https://design-milk.com
ห้องซักรีดถูกย้ายตำแหน่งมาใกล้ห้องน้ำ
ห้องซักรีดที่เคยถูกมองว่าเป็นส่วนเซอร์วิส ไม่ค่อยถูกสนใจและมักหลบมุมอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน อาจจะต้องมีการใส่ใจมากขึ้น โดยเปลี่ยนตำแหน่งของห้องนี้ จัดวางให้ใกล้กับบริเวณห้องน้ำ เพื่อที่เราจะได้ชำระร่างกาย รวบรวมเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว ซักทำความสะอาดให้เหมือนใหม่ โดยใช้พื้นที่เพียงโซนใดโซนหนึ่งของบ้านให้เป็นระเบียบ
Dtips : การออกแบบห้องซักรีด ควรมีช่องเปิดที่ทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดี หรือมีเครื่องดูดอากาศ ช่วยให้ผ้าของเราไม่เหม็นอับ และช่วยฆ่าเชื้อโรคได้อีกวิธีหนึ่ง
Photo Credits : https://www.alandimohandmade.com.au
พื้นที่เก็บของ ซุกซ่อนอยู่ในทุกจุด
เมื่อสถานการณ์ COVID บีบบังคับให้เราต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเวลาในการทำงาน ทำอาหาร หรือทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจกับสมาชิกครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าข้าวของเครื่องใช้ก็จะมักจะมีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย ไหนจะของใช้ อาหารแห้งที่ต้องซื้อตุน กักเก็บเอาไว้ให้เพียงพอ ไหนจะต้องมีงานเอกสาร หรือที่จัดเก็บผลงานสำหรับพื้นที่ Work From Home บ้านในยุคหลังๆ นี้ จึงอาจจะเต็มไปด้วยพื้นที่เก็บของที่ซุกซ่อนอยู่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจัดระเบียบของใช้ภายในบ้านให้สะอาด ไร้ฝุ่น รวมถึงทำให้บ้านของเราดูไม่รกอีกด้วย
Dtips : เราสามารถออกแบบพื้นที่จัดเก็บของได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บทางตั้ง การดีไซน์พื้นที่ใต้บันไดให้จัดเก็บของได้ หรือแม้แต่การเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นให้เป็นแบบ multifunction ที่สามารถเก็บของได้บางส่วน
พื้นที่รวมตัวของครอบครัว ขยายขนาดใหญ่ขึ้น
ถึงแม้ช่วง COVID แบบนี้ หลายคนคงจะเบื่อและเฉาไปตามๆ กัน เพราะผลกระทบที่ส่งผลทางด้านเศรษฐกิจและการงานโดยตรง แต่อย่างน้อย สถานการณ์นี้ก็มีข้อดีตรงที่ช่วยให้เราได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวมากขึ้น การหากิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจทำด้วยกันในครอบครัวกลายเป็นทางออกที่หลายบ้านหันมาให้ความสนใจ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ อาจส่งผลให้สเปซรวมตัวของครอบครัวอย่าง ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับประทานอาหาร มีการขยายขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบภายในครอบครัว
ซึ่งพื้นที่รวมตัวที่ขยายขนาดยังส่งเสริมการเว้นระยะห่าง สำหรับพื้นที่รับแขกหรือพื้นที่ส่วนรวมของสมาชิกครอบครัวหลายคน อาจจะมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้มีความหนาแน่นที่น้อยลง เพื่อลดอัตราเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อโรคนั่นเอง
พื้นที่หย่อนใจ กลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของบ้าน
แน่นอนว่าพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่หย่อนใจก็มีบทบาทสำหรับการอยู่อาศัยมาช้านานไม่ใช่เพียงเพราะยุค COVID แต่ด้วยความที่เราต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านเป็นส่วนมาก พื้นที่หล่านี้จึงกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนโหยหามากกว่าที่เคยเป็น เพราะนอกจากจะเติมความสดชื่นมีชีวิตชีวาให้การอยู่อาศัย ยังช่วยกรองฝุ่นและสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้กับบ้านได้อีกด้วย
บ้านในยุค COVID จึงอาจจะต้องมีการออกแบบให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายนอกมากขึ้น ทั้งในแง่ของฟังก์ชันและมุมมอง ห้องทำงานที่มองเห็นพื้นที่สีเขียว ห้องนั่งเล่นที่สามารถเปิดออกกว้างรับลมและแสงธรรมชาติ รวมถึงความร่มรื่นของพันธุ์ไม้ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายในการอยู่อาศัย แต่ยังทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ในช่วงสถานการณ์ COVID อย่างนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.treehugger.com
https://www.treehugger.com/more-how-coronavirus
how-build-healthy-home