หากศาสตร์ทางสถาปัตยกรรมคือศาสตร์เพื่อการสร้างประสบการณ์ต่อพื้นที่ฉันใด ศาสตร์ของ “กลิ่น” ก็เปรียบเป็นหนึ่งในตัวแปรของบรรยากาศในพื้นที่ฉันนั้น เพราะ พื้นที่ บรรยากาศ และกลิ่น คือองค์ประกอบที่ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย แม้จะเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้อย่างชัดเจน แต่ก็กลับรู้สึกได้ และสร้างความรู้สึกและประสบการณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นกับพื้นที่เล็กๆ หรือมุมบางมุมภายในบ้านของเราได้เช่นกัน
ทว่าการออกแบบพื้นที่ให้เชื่อมโยงกับกลิ่น หรือให้กลิ่นเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นที่ภายในบ้านนั้น อาจต้องแฝงด้วยเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่นอกจากจะช่วยให้กลิ่นสามารถหอมฟุ้งไปทั่วทุกมุมบ้านได้แล้ว ก็ยังมีบรรยากาศที่ลงตัวและคล้อยไปกับพื้นที่การใช้งานภายในบ้านได้เป็นอย่างดีโดยไม่รู้สึกเคอะเขินหรือเป็นส่วนเกินระหว่างกัน ด้วย 7 ทริคแสนง่าย ดังต่อไปนี้
จัดวางแบบคุมโทนสี
ตราบใดที่กลิ่นยังคงส่งความหอมละมุนได้ถ้วนทั่วทั้งบริเวณ เราก็คงจะนำกลิ่นหอมเหล่านั้นไปจัดวางไว้ตำแหน่งใดก็ได้ภายในบ้าน หากแต่มองสีสันของกลิ่นให้เป็นหนึ่งในตัวแปรสำหรับการสร้างความสวยงามให้กับพื้นที่นั้นๆ แล้วล่ะก็ การนำน้ำหอม เจล หรือเครื่องหอมชนิดต่างๆ ไปจัดวางในแต่ละตำแหน่งด้วยเทคนิคการคุมโทนสีจึงเป็นอีกองค์ประกอบที่ช่วยสร้างพื้นที่ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
ซึ่งการคุมโทนสีในที่นี้อาจหยิบยกทฤษฎีการออกแบบ “60-30-10” หรืออัตราส่วนง่ายๆ ที่ใช้ได้เสมอกับแวดวงการตกแต่งภายใน ผ่านการเลือกใช้สี 3 ระดับ อ่อน กลาง เข้ม หรือใช้หลักการสามเหลี่ยมจากวงล้อสี เพื่อเลือกเทียบเฉดสีให้ไปในทิศทางเดียวกัน และถึงแม้ทฤษฏีนี้จะถูกนำมาใช้กับภาพรวมกว้างๆ ของงานออกแบบเสียมากกว่า แต่ขึ้นชื่อว่าทฤษฎีก็คงไม่มีสูตรตายตัวที่เราจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานออกแบบชนิดใด หรือ แม้แต่การจัดตกแต่งบ้านเล็กๆ น้อยๆ ด้วยสีสันของกลิ่นที่ได้กล่าวมานี้
คอมโพสิชั่นคือหัวใจ
นอกจากสีสัน พื้นผิวของวัสดุ ไปจนถึงขนาด อีกการจัดวางองค์ประกอบที่สำคัญก็คือ เรื่องของตำแหน่งการจัดวาง ที่ล้วนแต่เป็นองค์ประกอบที่ต้องถูกเล่าให้เป็นเรื่องราวเดียวกัน ซึ่งการจัดวางองค์ประกอบกับอุปกรณ์ตกแต่งภายในบ้านนั้นอาจมองไปในมุมของตำแหน่งการจัดวางเสียมากกว่า ที่จะเน้นไปในทิศทางของความสมดุลระหว่างขนาดและระยะตำแหน่งที่จัดวาง
เช่น หากต้องการจัดวางอุปกรณ์ตกแต่งที่มีขนาด เล็ก กลาง และใหญ่ ในพื้นที่เดียวกัน การกระจายน้ำหนักหรือให้พื้นที่นั้นๆ มีน้ำหนักของอุปกรณ์ตกแต่งที่เท่ากันจึงจะเป็นคอมโพสิชั่นที่เหมาะสม หรือใช้เทคนิคการเปรียบเทียบง่ายๆ ผ่านเลนซ์กล้องโดยใช้กล้องถ่ายภาพหรือกล้องจากโทรศัพท์มาตั้งค่าให้เป็นกริด 9 ช่อง หรือกฎสามส่วน Rule of third เพื่อให้เห็นภาพของพื้นที่นั้นๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามีน้ำหนักที่สมดุลกันแล้วหรือยัง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้การจัดวางคอมโพสิชั่นเป็นไปได้อย่างง่ายขึ้น
จัดตำแหน่งวางตามทิศทางลม
หากอยากให้กลิ่นความหอมฟุ้งกระจายได้อย่างทั่วทุกมุมห้องแล้วล่ะก็ นอกจากจะคำนึงถึงเรื่องการจัดวางตำแหน่งให้สวยงามลงตัวแล้ว ตำแหน่งของลมหรือจุดอับก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะตำแหน่งที่ไม่มีลมผ่านก็ย่อมเป็นเรื่องยากที่น้ำหอมจะระเหยส่งกลิ่นให้ครอบคลุมทั้งห้องได้ การนำน้ำหอมปรับอากาศรูปแบบต่างๆ ไปวางในตำแหน่งต้นลมจึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นตำแหน่งที่ดีและเหมาะสมที่สุด รวมถึงระดับการจัดวางก็ไม่ควรวางในตำแหน่งที่สูงจนเกินไปจนระดับของลมไม่สามารถพัดผ่อนกลิ่นให้กระจายไปในอากาศได้เช่นเดียวกัน
แบบหัวฉีดอัตโนมัติควรวางตรงไหน
สำหรับลักษณะของน้ำหอมแบบหัวฉีดอัตโนมัติอาจไม่ได้มีหลักการอะไรแตกต่างไปจากน้ำหอมปรับอากาศรูปแบบอื่นๆ นัก แต่ตำแหน่งที่เหมาะสมก็ควรอยู่ในพื้นที่ที่ไกลมือเด็ก หรือไม่มีสัตว์เลี้ยงในบริเวณนั้น เพราะหัวฉีดอัตโนมัติจะทำการพ่นน้ำหอมออกมาตามเวลาที่ได้ตั้งไว้ ฉะนั้นหากมีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงเข้าไปวิ่งเล่นใกล้บริเวณนั้นขณะที่ตัวเครื่องกำลังทำงาน ก็อาจทำให้สัมผัสกับละอองน้ำหอมโดยตรง ซึ่งอาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวและร่างกายได้
เลือกกลิ่นที่ลงตัวกับบ้านของคุณ
เพราะกลิ่นที่ลงตัวกับพื้นที่นั้นๆ จะสามารถช่วยสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยได้ การเลือกกลิ่นของน้ำหอมปรับอากาศรูปแบบต่างๆ ให้เหมาะกับผู้อยู่อาศัย หรือเหมาะกับบรรยากาศในพื้นที่นั้นๆ จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงความสดชื่น ผ่อนคลาย และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศรอบตัว เช่น การเลือกกลิ่นซากุระให้กับพื้นที่ของบ้านที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อดื่มด่ำกลิ่นอายและชวนให้คิดถึงบรรยากาศในประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง หรือการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับคนในครอบครัวด้วยกลิ่นของดอกไม้นานาพรรณหรือกลิ่นของธรรมชาติ
ตำแหน่งที่ควรระวัง
ในส่วนของตำแหน่งที่ควรระวังในการจัดวาง หรืออาจไม่เหมาะกับการจัดวาง อย่าง จุดอับที่ไม่มีการถ่ายเทของอากาศที่ดี ตำแหน่งที่ต่ำจนเกินไปจนเด็กเล็กอาจเอื้อมมาหยิบหรือจับเล่นได้ หรือบริเวณหัวเตียงนอนที่ไม่ควรนำน้ำหอมปรับอากาศรูปแบบต่างๆ ไปวางไว้เหนือศรีษะ เพราะผู้ที่นอนในบริเวณใกล้ๆ จะได้รับกลิ่นของน้ำหอมมากจนเกินไป ซึ่งแน่นอนว่าอะไรที่มากจนเกินไปก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ฉะนั้นการนำน้ำหอมปรับากาศรูปแบบต่างๆ ไปวางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้น้ำหอมสามารถส่งกลิ่นหอมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังเป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยภายในบ้านจึงเป็นแนวทางที่ดีกว่า
ข้อดีและข้อจำกัดของน้ำหอมแต่ละแบบ
ด้วยความที่น้ำหอมปรับอากาศภายในบ้านนั้นมีให้เลือกใช้ค่อนข้างหลายรูปแบบ ก่อนจะตัดสินใจเลือกหยิบมาจัดวางให้เกิดความเหมาะสมจึงจำเป็นต้องรู้ถึงคุณสมบัติข้อดีและข้อจำกัดของน้ำหอมปรับอากาศรูปแบบต่างๆ เสียก่อน ซึ่งน้ำหอมปรับอากาศสำหรับใช้ภายในบ้านจาก Glade นั้นก็ได้มีอยู่ 3 รูปแบบให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ แบบสเปรย์หัวฉีดหรือหนึ่งในรูปแบบน้ำหอมปรับอากาศที่เรียกได้ว่าทุกบ้านจะต้องมีติดไว้ เพราะเมื่อใดที่ภายในบ้านเริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือรู้สึกไม่สดชื่น น้ำหอมรูปแบบนี้ก็มักจะสามารถหยิบขึ้นมาฉีดพ่นตามตำแหน่งต่างๆ ที่ต้องการแล้วเก็บรักษาไว้ในตำแหน่งเดิมได้อย่างสะดวก
หรือจะเป็นน้ำหอมแบบเจลระเหยที่ง่ายต่อการใช้งาน ด้วยที่สามารถเปิดใช้งานและจัดวางในตำแหน่งที่ต้องการได้ในทันที โดยที่กลิ่นจะทำหน้าที่หอมฟุ้งกระจายตลอดเวลาขณะที่เราไม่ต้องเข้าไปฉีดหรือทำสิ่งใดกับตัวน้ำหอม และสำหรับรูปแบบสุดท้ายที่ค่อนข้างสะดวกยิ่งกว่า ด้วยรูปแบบสเปรย์หัวฉีดที่มาพร้อมกับเครื่องพ่นอัตโนมัติ หรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถตั้งเวลาการพ่นน้ำหอมได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถจัดวางไว้ในบริเวณใดก็ได้ที่เหมาะสม และข้อจัดกัดก็ยังมีเพียงแค่เรื่องของถ่านที่อาจต้องทำการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ตัวเครื่องหยุดทำงานหรือหยุดส่งกลิ่นหอมให้กับตัวบ้าน ในวันที่บรรยากาศอาจไม่เป็นใจ
มีนานี้ ต้องมีซากุระ
เพราะมีนานี้ Glade อยากให้ดอกซากุระหอมฟุ้งในบ้านของคุณดุจได้อยู่ท่ามกลางทุ่งซากุระ ด้วยโปรโมชั่นของแถมแสนน่ารักถึง 2 ต่อ โดยต่อที่ 1 เพียงซื้อ Glade ซากุระออโตเมติกสเปรย์ รับฟรีซากุระกริปต๊อก 3 ชิ้น พร้อมกับสติ๊กเกอร์ซากุระจำนวน 1 แผ่น และเมื่อซื้อ Glade ซากุระเซ็นท์เต็ดเจล หรือ Glade ซากุระสเปรย์ รับฟรีซากุระกริปต๊อก 1 ชิ้น เช่นเดียวกัน
ต่อที่ 2 รับรหัสอัพพลังให้ซากุระพยาการณ์ ถามคำถามในใจที่คุณอยากรู้ฟรีแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยสามารถส่งใบเสร็จ Glade ซากุระที่ร่วมรายการ ผ่านไลน์ @GladeSakura เพื่ออัพพลังซากุระให้ชีวิต ได้ตั้งแต่วันที่ 5 มีนามคม – 5 เมษายน 2564 แล้วคุณจะพบว่าศาสตร์ของกลิ่นนั้นน่าค้นหาและมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด