แม้กาลเวลาหมุนเวียนผ่านไป แต่คุณค่าความงามทางสถาปัตยกรรมของสถาปนิกเอกยังอยู่จวบจนปัจจุบัน เป็นหลักฐานยืนยันตัวตนแก่ชนรุ่นหลัง
UNESCO ยกย่องให้ผลงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมของ Le Corbusier สถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อดังของโลกทั้ง 17 ชิ้นที่สร้างขึ้นในสตวรรษที่ 20 เป็นมรดกโลก เพราะเป็นผลงานที่สะท้อนให้ถึงการแก้ปัญหา ความท้าทายและเทคนิคในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมในช่วงศตวรรษที่20 หรือยุคโมเดิร์น เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในสังคม
Le Corbusier เป็นสถาปนิก นักผังเมือง มัณฑนากร จิตรกร และนักเขียนชาวฝรั่งเศส(เดิมเป็นชาวสวิส แต่แปลงสัญชาติตอนอายุ 30กว่าๆ) และเป็นสถาปนิกที่เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมmodern แนวความคิดในการออกแบบของเขายึดถือความคิดเกี่ยวกับรูปทรงอย่างเดียว พร้อมกับคำพูดของเขาที่ว่า ” a house is a machine for living in” หมายความว่า บ้านพักอาศัยควรสนองประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง เขามองเห็นว่า บ้านนั้นเป็นผลิตผลของผู้บริโภคเหมือนกับรถยนต์ ซึ่งผลิตชิ้นส่วนออกมาจากโรงงาน และด้วยการผลิตทางอุตสาหกรรมนี้ บ้านก็ควรมีชิ้นส่วนที่ผลิตออกมาจากโรงงาน และหลักการนี้ก็เข้าครอบงำสถาปนิกตั้งแต่นั้นมา
มาดูกันว่าผลงานของเค้าทั้ง17ชิ้น ได้แก่อะไรบ้าง ?
1. Petite maison au bord du lac Léman in Corseaux, Switzerland, 1923 – 1924
บ้านที่เค้าออกแบบให้พ่อและแม่ของเค้า ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทะเลสาบเจนีวา เป็นบ้านชั้นเดียวขนาดเล็กมีพื้นที่ใช้สอย 60 ตร.ม. ภายในใช้แผงบังตากั้นพื้นที่ส่วนต่างๆออกจากกัน
2. Cité Frugès, Pessac, France, 1924
ต้นแบบบ้านพักสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ ตัวอาคารมี 3 ชั้น สร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็ก ทาสีฟ้าอมเขียว(สีmint)และสีแดงอมน้ำตาล(สีอิฐ) และสร้างบันไดไว้นอกอาคาร
3. Maison La Roche-Jeanneret, Paris, France, 1923 – 1925
บ้านที่เค้าออกแบบร่วมกับญาติชื่อ Pierre Jeanneret เพื่อ Raoul La Roche นายธนาคารชาวสวิสต์ผู้มีรสนิยมชอบสะสมงานศิลปะ ตัวบ้านเป็นตึกคอนกรีตทำสีขาววางเรียงต่อกันเป็นรูปตัว L ปัจจุบันปรับฟังก์ชันการใช้งานเป็นพิพิธภัณฑ์
4. Maison Guiette, Antwerp, Belgium, 1926
ผลงานออกแบบที่ตั้งในต่างประเทศชิ้นแรกของเค้า เป็นบ้านพักอาศัยและสตูดิโอของ René Guiette ศิลปินชาวเบลเยียม ตัวบ้านมีลักษณะเป็นกล่องทรงสูงสีขาว มีหน้ากว้าง 6 เมตร facade(เปลือกอาคาร) ตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่
5. Weissenhof Estate, Stuttgart, Germany, 1927
บ้านที่สร้างขึ้นสำหรับจัดนิทรรศการของบริษัท Weissenhof บริษัทอสังหาริมทรัพย์ประเทศเยอรมนี
6. Villa Savoye et loge du jardinier, Poissy, France, 1928
ผลงานชิ้นสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนของยุค modern นำเส้นสายแบบเรขาคณิต และส่วนโค้งวงกลมมาใช้เป็นองค์ประกอบหลักในงาน ทำให้เกิดความรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ผนังใช้สีขาวผิวหน้าที่เรียบและลื่นให้ความรู้สึกสะอาดตา มีการคำนึงถึงทิศทางของแสงแดดก่อนเจาะช่องแสง ทำให้เกิดเงากระทบที่สวยงาม
7. Immeuble Clarté, Geneva, Switzerland, 1930
อพาทเม้นสูง 8 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด 45 ห้อง
8. Immeuble locatif à la porte Molitor, Paris, France, 1931 – 1934
อพาทเม้นที่มี façade เป็นบานหน้าต่างกระจก ภายหลัง Le Corbusier ได้ใช้ชั้นบนของตึกนี้เป็นสตูดิโอทำงาน
9. Unité d’Habitation, Marseille, France, 1945
10. Usine Claude et Duval Factory, Saint-Dié, France, 1946
11. Maison Curutchet, La Plata, Argentina, 1949
12. Cabanon de Le Corbusier, Roquebrune-Cap-Martin, France, 1951
บ้านพักตากอากาศขนาดเล็กขนาด 3.6×3.6 เมตร ของเค้าเอง เค้าได้ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอยู่ที่นี่ ก่อนที่จะเสียชีวิตลงในปี 1965
13. Complexe du Capitole, Chandigarh, India, 1952
ศาลสูงและสภานิติบัญญัติของอินเดีย
14. Maison de la Culture, Firminy, France, 1953
15. Couvent Sainte-Marie de la Tourette, Eveux-sur-l’Arbresle, France, 1953
16. Musée National des Beaux-Arts de l’Occident, Taito-Ku, Tokyo, Japan, 1955
17. Notre Dame du Haut chapel, Ronchamp, France, 1950 – 1955
โบสถ์คอนกรีตที่ใช้รูปทรงแปลกตาภายนอกเป็นตัวแทนทางศาสนา
cr: dezeen