คาเฟ่โทนสีน้ำทะเล ในบรรยากาศเหมือนอยู่ใต้มหาสมุทรที่เต็มไปด้วยภาพวาดรูปปลาวาฬที่กำลังว่ายเล่นไปมา
Blue Whale
Location : 392/37 ถนนมหาราช พระนคร กรุงเทพฯ 10200 (หลังวัดโพธิ์)
Owner : คุณสิริกุล ทรัพย์สุขสิริ , คุณสุดาพัทธ์ เลิศพรกุลรัตน์ , คุณอคพจน์ ธีรพงศกร
Interior designer : คุณจุ๊-จุฬาทิพย์ อินทราไสย
หากย้อนไปก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือนที่แล้ว เราได้มีโอกาสไปรีวิวสไตล์การตกแต่งของร้าน Make Me Mango แถวท่าเตียน ซึ่งพอทราบว่าดีไซเนอร์ที่ออกแบบร้านมะม่วงกับร้าน Blue Whale เป็นคนเดียวกันเท่านั้นแหละ ยิ่งทำให้เราอยากรีบพุ่งตัวไปดูร้านทันทีเลยว่าจะสวยขนาดไหน เพราะส่วนตัวก็ค่อนข้างชอบงานออกแบบของ คุณจุ๊-จุฬาทิพย์ อินทราไสย เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งมีซิกเนอร์เจอร์ในการออกแบบที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในตึกแถวได้อย่างคุ้มค่าได้ทุกตารางนิ้ว ร้านนี้ก็เช่นกัน คุณจุ๊ได้แบ่งพื้นที่จาก 2 ชั้นให้กลายเป็น 3 ชั้น โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างใต้หลังคาทำเป็นชั้นที่ 3
เจ้าปลาวาฬสีน้ำเงิน
เมื่อมาถึงร้านเราก็ได้พบกับคุณกุล-สิริกุล ทรัพย์สุขสิริ หนึ่งในหุ้นส่วนร้าน พูดคุยทักทายพอเป็นพิธี จากนั้นเราจึงถามถึงเรื่องชื่อและที่มาของร้านเป็นอันดับแรก ซึ่งก็ได้คำตอบว่าคาเฟ่นี้เกิดจากการรวมตัวกันของ 3 หุ้นส่วน แต่ละคนต่างก็ชอบทำอาหารและชอบสีน้ำเงินเหมือนกัน ซึ่งสีน้ำเงินก็มีหลากหลายเฉดสี สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าสีน้ำเงินที่ชื่อ “Blue Whale” นี่ล่ะ คือโทนสีที่ใช่ จึงนำชื่อสีมาตั้งเป็นชื่อร้านและเป็นโทนสีหลักประจำร้าน
Under the sea
…เมื่อมีปลาแล้ว ก็ต้องมีทะเล บ้านของปลาสิ ไม่งั้นปลาจะอยู่ที่ไหนล่ะ…
จึงเป็นที่มาของคอนเสบต์ในการตกแต่งร้าน ที่จำลองว่าทั้งร้านนี้เป็นท้องทะเลลึก โดยใช้วิธีไล่ระดับชั้นของผิวน้ำ ชั้นล่างสุดเป็นก้นทะเล ชั้นบนสุดเป็นผิวน้ำ และตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลเข้มที่มีกลิ่นอายของความเก่า แต่เก๋าด้วยความชิค และเพิ่มวอลเปเปอร์ลายดอกสีสดใสกับต้นไม้จริง เพื่อเติมสีสันให้เหมือนปะการังใต้ทะเล
เมื่อก้าวมายืนอยู่หน้าร้าน สิ่งแรกที่เตะตาเราในทันทีเลยก็คือเคาน์เตอร์ชงกาแฟสีขาว ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำกาแฟนานาชนิด และรูปลายเส้นปลาวาฬขนาดใหญ่บนกำแพงสีน้ำเงินเข้ม ที่ว่ายน้ำต้อนรับทุกคนที่ผ่านเข้ามา ซึ่งเป็นฝีมือการวาดของหนึ่งในหุ้นส่วนร้าน ส่วนอีกด้านเป็นกำแพงที่กรุด้วยกระเบื้องลายคลื่น (ซึ่งตอนแรกเรามองเป็นเกล็ดปลา แต่นึกไปนึกมา ปลาวาฬไม่มีเกล็ดนี่นา) ไล่เฉดสีจากเข้มไปอ่อน จากชั้นล่างขึ้นไปจรดชั้นสาม
จากนั้นเมื่อเดินขึ้นบันไดไม้สลับกับบันไดเหล็กพับขึ้นมาชั้นสอง ก็จะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งทานอาหาร ซึ่งมีโทนสีที่สว่างกว่าชั้นล่างเล็กน้อย คุณกุลเล่าว่าพื้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดในร้านเป็นของมือสอง ซึ่งบางชิ้นอาจมีอย่างละตัว ถึงแม้จะดูเก่า แต่ก็สร้างกิมมิกความเก๋าให้ร้านอยู่ไม่น้อย
ผนังวอลเปเปอร์ลายดอกไม้ เปรียบเหมือนปะการังสีสันสดใสที่เป็นที่อยู่ของเหล่าปลาตัวน้อยใต้ท้องทะเล ช่วยแต่งเติมสีสันให้ร้านไม่ดูมืดจนเกินไป
พื้นที่เล็กๆบริเวณระเบียง ถูกดัดแปลงให้เป็นพื้นที่นั่งจิบกาแฟแบบเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมชมปลาวาฬแบบชิวๆ
บันไดเหล็กพับ มีความกว้างขนาดเดินสวนกันได้อย่างอบอุ่น วางทอดตัวจากชั้นสองขึ้นมาถึงชั้นสาม ดีไซน์ให้ไม่มีราวจับ เพื่อให้ดูโปร่งโล่ง ส่วนกำแพงด้านข้างก็ตกแต่งด้วยการเพ้นต์ไล่สีจากน้ำเงินขึ้นไปขาวแบบฟุ้งๆ ดูเหมือนฟองอากาศใต้น้ำ
ชั้นบนสุด เปรียบเสมือนชั้นผิวน้ำ เป็นส่วนที่มีสีอ่อนที่สุด เพราะหลังคาแบบ skylight ทำให้แสงแดดสาดส่องเข้ามาถึงในอาคารได้อย่างง่ายดาย ส่วนพื้นที่นั่งได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 สเตป สเตปแรกเป็นที่นั่งแบบห้อยขาตามปกติ แต่พอเดินขึ้นมาอีกสเตปเป็นที่นั่งแบบนั่งกับพื้น นอกจากนั้นยังเบรคโทนสีน้ำเงินด้วยสีเขียวของต้นไม้ ทำให้ดูสบายตายิ่งขึ้น
Eat well with Mr.Whale
ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าคาเฟ่ แต่ก็ไม่ได้มีแค่ขนมหวานอย่างคาเฟ่ทั่วไป เพราะถ้าคุณมาที่นี่คุณจะได้อิ่มท้องทั้งของหวานและของคาวสไตล์ฟิวชั่นแบบ full course จบครบในที่เดียว
Soy red bean frappe
นมถั่วเหลืองผสมกราโนล่าปั่น เพิ่มท้อปปิ้งถั่วแดงบดละเอียด เป็นเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รสชาติกลมกล่อมไม่หวานจนเกินไป แถมยังอิ่มท้องอีกด้วย
Salmon teriyaki with rice
เนื้อปลาแซลม่อนอบจนได้เนื้อนุ่มกำลังดี ราดซอสเทริยากิ เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ เคียงคู่มากับสลัดผักเพื่อสุขภาพ เป็นเมนูที่ช่วยชาร์จพลังจากความเหนื่อยล้าตลอดการเดินทางทั้งวันที่ท้องสนามหลวง
Orange Buttercake
Buttercake สูตรโฮมเมดที่ต่างจากร้านอื่นตรงที่เนื้อเค้กผสมเนื้อซิฟฟ่อน หอมกลิ่นน้ำผึ้งและเลม่อน โรยด้วย apple crumble ซินนาม่อน และเปลือกส้มขูด เสริฟพร้อมซอสส้มและไอศครีมวนิลา ได้รสชาติเปรี้ยมอมหวานอย่างลงตัว
ส่วนใครที่บังเอิญผ่านไปแถวท่าเตียน หรือตั้งใจผ่านไปแถวนั้น ไม่ว่าจะไปทำธุระหรือไปไหว้พระทำบุญ แล้วเกิดอาการท้องร้อง อยากหาคาเฟ่บรรยากาศดีๆ ที่มีทั้งเครื่องดื่มและอาหาร ก็แวะเวียนไปกันได้ค่ะ ร้านเปิด 10.00-20.00 น. หยุดทุกวันพฤหัสบดีนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Blue Whale Maharaj