เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ HP ติดต่อมา และบอกเราว่าอยากให้เขียนถึงปริ้นเตอร์ 2 รุ่น ที่ตอนนี้จัดแสดงอยู่ที่งานสถาปนิก ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบในเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่แล้ว จึงคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจดีครับ อย่างน้อยก็ไปอัพเดทเทคโนโลยีทันสมัยเอามาเล่าให้ทุกคนฟังกัน…
ไม่ว่าจะเป็นสถาปนิกหรือมันฑณากรในรูปแบบบริษัทใหญ่ หรือเพิ่งก่อตั้งเป็น Start Up ใหม่ไฟแรง นักออกแบบกับ เครื่องปริ้นเตอร์ คือของที่ขาดจากกันไม่ได้ เพราะตั้งแต่ขั้นตอนของการส่งแบบร่าง (Schematic Design) ครั้งแรก ไปสู่ขั้นพัฒนาแบบ (Design Development) ไปจนถึงขั้นสุดท้ายของการทำแบบคือแบบก่อสร้าง (Construction Drawing) นักออกแบบต้องทำการเสนอผลงานให้ลูกค้าและทุกคนที่ร่วมอยู่ในทีมได้เข้าใจในแบบ ในแนวคิดที่ต้องการจะสื่อสาร และการปริ้นออกมาเป็นกระดาษ ยังคงเป็นวิธีที่เรียบง่าย และได้ผลมากที่สุดอยู่
บวกกับช่วงนี้ เพื่อนๆและคนรู้จัก ต่างก็ถามกันเข้ามาว่าถ้าจะซื้อปริ้นเตอร์ (แบบจริงๆจังๆ) สักตัว ตอนนี้มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง โดยสิ่งที่ผมคิดว่า คุณสมบัติที่น่าจะมีในเครื่องที่ต้องการนี้คือ ต้องปริ้นได้เร็ว ไม่กินกระดาษ ไม่เบี้ยว (อันนี้ประสบการณ์จากเครื่องปริ้นที่มหาวิทยาลัย ซึ่งไม่มีเครื่องใดปริ้นได้ตรง ฮาา) ปริ้นแบบไร้สายได้ก็ยิ่งดี (ปริ้นงานจากที่ใดก็ได้ ขอเพียงมีสัญญาณอินเตอร์เน็ท) และที่สำคัญต้องครบทั้งปริ้น สแกน และราคาเหมาะสม… พูดกันจริงๆ ผมไม่แน่ใจว่าจะพูดถึงเทคโนโลยีเครื่องปริ้นเตอร์นี้อย่างไรให้เหมาะสมไปมากกว่านี้ จนได้มาเจอตัวเป็นๆ และได้ลองใช้งานจริงที่งานสถาปนิก 60 ที่ผ่านมา… บอกเลยว่าน่าจะตอบโจทย์ของนักออกแบบมากๆ โดยขอสรุปสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ HP DesignJet T830 และ HP Latex 360 ดังนี้ครับ
HP DesignJet T830
1. ปริ้นแบบไร้สาย
ข้อนี้น่าจะเป็นคุณสมบัติในฝันของหลายๆคน เพราะมันทั้งสะดวกและเร็ว โดยเราสามารถสั่งงานเครื่อง HP DesignJet T830 นี้ผ่าน Apps, Wifi และ Direct Wifi เสมือนเครื่องปริ้นนี้ เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทตลอดเวลา เราสามารถเชื่อมโยงงานสู่คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต (ได้ทั้ง iOS และ Andriod) เช่น เราสามารถสั่งปริ้นแบบหรือรูปภาพขนาดใดก็ได้ ได้แม้เราไม่ได้อยู่ที่หน้าเครื่องปริ้นก็ตาม (แต่เครื่องต้องเปิดอยู่พร้อมอินเตอร์เน็ทและมีกระดาษเตรียมไว้ในเครื่องอย่างถูกต้อง)
(ปริ้นงานผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายมากๆ ผ่าน Direct Wifi ไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ท, ผ่าน Wifi ปริ้นจากที่ไหนก็ได้ แต่ขอให้อยู่ในบริเวณที่จับสัญญาณ Wifi ตัวเดียวกันได้)
(โดยการสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั้น สามารถปริ้นได้เฉพาะไฟล์รูปภาพและ PDFเท่านั้น)
วิดีโอแสดงการสแกนงานและส่งเข้าสมาร์ทโฟนได้ทันที
วิดีโอแสดงการสั่งปริ้นงานจากสมาร์ทโฟน
วิดีโอแสดงการสั่งปริ้นงานทางไกล โดยการส่งอีเมลเข้าที่เครื่องปริ้น
2. ใช้งานง่าย ด้วยหน้าตาที่เป็นมิตรกับทุกคน
หลายครั้งที่เรามักหงุดหงิดกับหน้าจอที่สั่งงานปริ้นเตอร์ที่เข้าใจยาก โดยเฉพาะกับปริ้นเตอร์ขนาดใหญ่ ต้องมีการปรับ เซ็ทระบบต่างๆ ที่น่าจะยุ่งยาก แต่ปริ้นเตอร์ตัวนี้ไม่เป็นแบบนั้น ทั้งหน้าจอ การแสดงผลด้วยภาพกราฟฟิกและคำที่เข้าใจง่าย สำหรับคนที่ใช้งานเป็นครั้งแรกก็สามารถสั่งปริ้นได้
ยิ่งกับการใช้งานผ่าน Application ของ HP All in One Remote ยิ่งใช้งานง่ายเข้าไปใหญ่ ใน App ยังสามารถบอกปริมาณหมึกที่เหลือ ประวัติการปริ้น และสถานะเครื่องปริ้นในตอนนั้นๆ ว่าทำงานปกติ หรือมีการ error อะไรอยู่ได้อีกด้วย
3. รวดเร็ว ย่นเวลา และคล่องตัว
ผมเห็นภาพของความคล่องตัวในการทำงานในยุคสมัยปัจจุบัน โดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ที่การเดินทางคืออุปสรรค์ใหญ่ลำเลียง “แบบ” จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หรือสมัยก่อนเราคิดถึงการเข้าออฟฟิศเพื่อปริ้นงานให้เสร็จก่อนกลับบ้าน หรือการรีบตื่นแต่เช้าเพื่อมาปริ้นงาน ก่อนออกไปหาลูกค้า แต่สำหรับ HP DesignJet T830 คุณสามารถสั่งงานจากอีกที่หนึ่งได้… เท่านี้ ผมก็รู้สึกได้ถึงความคล่องตัวแบบสุดๆ แล้ว
4. หน้าตาทันสมัย วางตรงไหนก็ทำให้ห้องดูดี
แน่นอนว่าเรื่องหน้าตา เป็นสิ่งที่นักออกแบบให้ความสำคัญเสมอ แม้บางครั้งอาจไม่ใช่หน้าที่หลัก แต่ก็ขอให้ดูดีไว้ก่อน ปริ้นเตอร์ก็เป็นเหมือนเครื่องใช้กึ่งเฟอร์นิเจอร์ตัวหนึ่ง ที่สามารถช่วยเสริมบรรยากาศให้ห้องทำงาน หรือสำนักงานของคุณได้
ซึ่งหน้าตาของเจ้าเครื่องปริ้น HP DesignJet T830 นี้ เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้นาน ผู้ใช้งานไม่รู้สึกเบื่อก่อน เพราะด้วยดีไซน์นั้นมีความเป็นกลางสูง ไม่ได้ดูล้ำสมัยจนเกินไป แต่กลับเรียบง่าย ตรงไปตรงมา แบบพอดีๆ ซึ่งผมเชื่อว่านักออกแบบหลายคนน่าจะชอบการดีไซน์ที่ไม่มากไม่น้อยไปแบบนี้
HP Latex 360
1. ปริ้นลงผ้าได้!
คุณสมบัตินี้ทำให้ผมค่อนข้างประทับใจ เพราะใครจะคิดว่าเราจะสามารถปริ้นลวดลายที่ออกแบบมา ลงบนเนื้อผ้า เพื่อนำมาสานต่อไอเดียในการสร้างงานออกแบบต่อไปได้ ซึ่งเนื้อผ้านั้นต้องมีความหนาตามมาตรฐานที่เครื่องสามารถปริ้นได้ด้วย คิดไปถึงคนที่ใช้งานผ้าในงานออกแบบจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคนออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน หรือสินค้าต่างๆ ที่มีผ้าเป็นส่วนประกอบหลัก การที่สามารถสร้างลวดลายบนผ้าเองได้ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย
2. ปริ้นเป็น Wallpaper ได้
สำหรับใครที่ชอบงาน Wallpaper หรือได้รับงานออกแบบที่มี Wallpaper บ่อยครั้ง เครื่องนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดี เพราะเราสามารถพิมพ์ลายต่างๆ ลงไปบนกระดาษ Wallpaper โดยเฉพาะ ปริ้นเสร็จติดตั้งบนผนังได้เลย! นอกจากงานตกแต่งห้องหรือภายในอาคาร การปริ้นยังเหมาะกับคนที่อยู่ในสายงานออกแบบบูธ ออกแบบงาน Exhibition ต่างๆ ที่ต้องการความรวดเร็วและยังได้คุณภาพงานที่ดีไปพร้อมๆกัน
3. หมึกดีต่อสุขภาพ ใช้เป็น Wallpaper ไม่อันตราย
หมึกแท้ของ HP ยังดีต่อสุขภาพ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสะอาด ไม่มีสารละเหย ที่จะส่งผลต่อผู้ที่ใช้งานหลังติดตั้ง เช่นงาน Wallpaper สำหรับห้องที่ต้องการความถูกสุขอนามัย อาทิห้องในโรงพยาบาล ห้องในโรงเรียนอนุบาล เป็นต้น เรียกได้ว่าปริ้น ติดตั้ง แล้วก็ใช้งานได้เลย
ปริ้นทั้ง 2 ตัวนี้ อาจไม่ใช่ของใช้ชิ้นเล็กที่จะเลือกซื้อกันบ่อยๆ แต่หากจะเลือกซื้อทั้งที ผมก็แนะนำเจ้า 2 ตัวนี้ ที่มีหน้าที่และฟังก์ชั่นต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณครับ…
ใครสนใจปริ้นเตอร์ 2 ตัวนี้ หรือสินค้าอื่นๆจาก HP เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.hpstorethailand.com ได้เลย