เมื่อพูดถึงโรงภาพยนตร์ปรินซ์รามาแล้ว หลายๆคนอาจจะคิดถึงภาพโรงภาพยนตร์แสตนด์อโลนที่เคยเจริญรุ่งเรือง โดยมีการฉายตั้งแต่ยุคภาพยนตร์ขาวดำจนถึงภาพยนตร์สี ซึ่งจริงๆแล้วโรงภาพยนตร์ปรินซ์รามานั้นมีอายุมากกว่า 100 ปี และมีเรื่องราวประวัติศาสตร์และรูปแบบอาคารที่น่าสนใจ ชวนให้ค้นหาอยู่ไม่น้อย
– Prince Theatre Heritage Stay –
ผู้ที่ทำการชุบชีวิตโรงภาพยนตร์ที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 คือคุณกิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี โดยมีประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตเป็นแนวคิดสำคัญ และคุณจิตติพันธ์ ศรีกสิกร ผู้ที่สานต่อเจตนาความตั้งใจของคุณกิตติศักดิ์ ด้วยการออกแบบที่ลงลึกถึงทุกรายละเอียด เพื่อความสมจริงและคงไว้ซึ่งองค์ประกอบของโรงภาพยนตร์ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในไทย ให้กลายเป็นโรงแรมที่มีบรรยากาศผ่อนคลายและน่าพักผ่อนอีกด้วย
คุณกิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี และ คุณจิตติพันธ์ ศรีกสิกร
คุณจิตติพันธ์ ผู้ออกแบบกล่าวถึงความหมายของ Heritage Stay ว่า “คำนี้แปลความได้ 2 อย่าง นั่นคือ Heritage must Stay (ต้องทำให้)มรดกนั้นอยู่สืบไป และ Stay with Heritage เราได้พักอยู่ในอาคารที่เป็นมรดก ซึ่งก็นับเป็นหนึ่งในวิธีการสืบสานต่อให้อาคารและชุมชนมีความยั่งยืน” และนี่ก็คือจุดประสงค์ในการปรับเปลี่ยนพื้นที่นี้อีกด้วย
– จากโรงภาพยนตร์เก่า…สู่โรงแรมที่เรียงร้อยเรื่องราวทั้งหมดไว้ด้วยกัน –
ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลาย มีภาพยนตร์ขาวดำ Love me tender นำแสดงโดย Elvis Presley เป็นฉากหลัง นำมาซึ่งบทสนทนาของเรากับคุณกิตติศักดิ์ และคุณจิตติพันธ์ ถึงที่มาและแนวคิดในการทำงานครั้งนี้
โรงภาพยนตร์ปรินซ์ที่ถูกทิ้งร้างเป็นเวลาถึง7 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงเป็น Prince Theatre Heritage Stay
“เราพยายามที่จะปรับเปลี่ยนโรงภาพยนตร์ปรินซ์ให้มีความน่าสนใจ ดึงดูด และแนวคิดสำคัญซึ่งสามารถสื่อถึงความเป็นโรงภาพยนตร์ปรินซ์ได้ นั่นคือการอนุรักษ์จอหนัง อนุรักษ์กระจกสีนอกอาคารที่ตกแต่งด้วยสไตล์ Art Deco และคงวัสดุให้รู้สึกเหมือนกับเป็นโรงภาพยนตร์ในสมัยก่อนอยู่” คุณกิตติศักดิ์กล่าว
จอภาพยนตร์…คงเดิม – จอภาพยนตร์สิ่งที่แสดงความเป็นโรงภาพยนตร์ได้ดีที่สุด Prince Theatre Heritage Stay จึงออกแบบให้มีจอภาพยนตร์อยู่ในทิศทางเดิม แต่เปลี่ยนจอใหม่ เพราะจอเดิมเก่าและไม่สามารถใช้งานได้แล้ว จอภาพยนตร์นี้จะตั้งอยู่บริเวณต้อนรับและรับประทานอาหาร เมื่อแขกเดินเข้ามาภายในโรงแรมจะพบกับจอหนังขนาดใหญ่ ที่จะมีการฉายภาพยนตร์ตามแต่ละช่วงเวลาต่างกันไป
Art Deco…คงเดิม – กระจกสี (Stained glass) หลากสีสันสดใส นอกจากจะเห็นเด่นชัดอยู่ในส่วนทางเข้าอาคารแล้ว ผู้ออกแบบยังนำเส้นสายของกระจกที่ตัดกันไปมา มาใช้เป็นลวดลายในการออกแบบตั้งแต่ลายของเหล็กดัดกันตก จนไปถึงโลโก้ของโรงแรมด้วย
วัสดุ…คงเดิม – วัสดุหลักในโรงแรมคือไม้และสังกะสี โดยเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในสมัยก่อน แต่ภายหลังจากการรีโนเวท ในบริเวณผนังบางส่วนและหลังคาที่ใช้สังกะสีปู จะถูกเปลี่ยนเป็นเมทัลชีทแทน เพราะเมทัลชีทมีความคงทนกว่าสังกะสี ผู้ออกแบบเลือกใช้วัสดุคงเดิมเพื่อเป็นการคงความรู้สึกของโรงภาพยนตร์ยุคแรกของประเทศ ที่ใช้โครงสร้างไม้และมุงหลังคาด้วยสังกะสี
– ปรับปรุง เพื่ออนุรักษ์ –
คุณจิตติพันธ์ผู้ปรับโฉมโรงแรมกล่าวว่า “ความรู้สึกแรกที่เราได้เข้าไปโรงภาพยนตร์ซึ่งถูกทิ้งร้างไว้ถึง 7 ปี เรารู้สึกสงสารอาคารที่เคยมีเรื่องราว มีความสุขของผู้คน กลับกลายเป็นที่รกร้างและที่ทิ้งขยะของชุมชน เราคิดว่าถ้าได้ทำความสะอาด ได้ปรับปรุงอาคารก็คงดีขึ้น เพราะด้วยตัวของโรงภาพยนตร์เองนั้น มีทั้งเรื่องเล่าและลูกเล่นสนุกๆที่เราสามารถเอามาประยุกต์เป็นโรงแรมได้”
หลังจากที่ผู้ออกแบบได้เข้าไปสำรวจสภาพภายในโรงภาพยนตร์ก็รู้สึกถึงความเก่าแก่และทรุดโทรมของสถานที่ มีเพียงองค์ประกอบและสิ่งของบางสิ่งที่เลือกจะเก็บไว้ นั่นคือเก็บโครงจอหนัง เก็บกระจกสีซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงภาพยนตร์ เก็บทั้งโปสเตอร์หนังและเอกสารที่ถูกทิ้งไว้อยู่ในห้องทำงาน เก็บทุกอย่างที่สามารถใช้ได้ เพื่อนำมาเล่าเรื่องราวของโรงภาพยนตร์เก่าให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
ส่วนเรื่องของโครงสร้าง มีการคงโครงสร้างไม้ซึ่งเป็นโครงสร้างเดิมของอาคารไว้ ถ้าส่วนใดมีการชำรุดก็จะเสริมโครงสร้างด้วยไม้ใหม่ช่วยรับน้ำหนัก หรือเพิ่มโครงทรัสท์และโครงสร้างเหล็ก สร้างความแข็งแรงให้กับอาคาร
– ชุมชนคือส่วนสำคัญ –
อีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจของ Prince Theatre Heritage Stay คือความต้องการจะพัฒนาโรงแรมให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นการรักษาคุณค่าของสถานที่เก่าแก่และชุมชนจีนกวางตุ้งให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ระหว่างทางไปโรงแรมแขกทุกคนต้องเดินผ่านย่านบางรัก และเดินลัดเลี้ยวเข้ามาในตรอกเล็กๆก่อนถึงจะได้เข้าไปยังโรงแรม แขกผู้เข้าพักจะเห็นวิถีชีวิตและได้สัมผัสความมีเสน่ห์ของผู้คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี
ทางโรงแรมมีกิจกรรมพาแขกผู้เข้าพักเดินชมบรรยากาศบริเวณรอบโรงแรม และมีอาหารเช้าที่มาจากร้านอาหารชื่อดังของย่านบางรัก อีกทั้งยังมีการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันกับคนในชุมชน ในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยร่วมกันอีกด้วย
– Heritage Stay –
ห้องพักทั้งหมดของโรงแรม Prince Theatre Heritage Stay มีทั้งหมด 26 ห้อง มีทั้งห้องพักรวมและห้องพักส่วนตัว ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 – 4,200 บาท
ส่วนของห้องพักทั้งหมดจะอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรม เมื่อมองลงมาจะเห็นบริเวณส่วนกลางและจอฉายหนังขนาดใหญ่
ห้องพักแบบส่วนตัวจะมีทั้งหมด 4 ห้อง ซึ่งทั้ง 4 ห้องนี้จะตกแต่งตามเรื่องราวของโรงภาพยนตร์ปรินซ์ในแต่ละยุค เป็นการบ่งบอกเรื่องราวความเป็นมา แต่ละช่วงชีวิตของที่แห่งนี้ เริ่มจากยุคแรกของโรงภาพยนตร์ปรินซ์ซึ่งมีการค้นเจอว่า ก่อนที่จะเป็นโรงภาพยนตร์สถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นบ่อนหลวงมาก่อน จึงมีการออกแบบห้องด้วยแนวคิด The Casino
The Chinese Opera – ภายในเวลาต่อมาเนื่องจากนโยบายการยกเลิกบ่อนเบี้ย ในสมัยรัชกาลที่ 5 จากบ่อนจึงเปลี่ยนแปลงเป็นโรงงิ้ว โดยมีการใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ในสมัยก่อนมาใช้ เป็นแนวคิดในการออกแบบห้องนี้
Prince Theatre – ยุคต่อมาของโรงภาพยนตร์คือยุคที่เฟื่องฟูที่สุด นั่นคือยุคของโรงภาพยนตร์ปรินซ์รามานั่นเอง มีการตกแต่งห้องด้วยการโปสเตอร์ภาพยนตร์ชื่อดังในยุคนั้นมาใช้
Prince Rama – คือยุคสุดท้ายของโรงภาพยนตร์ปริ๊นซ์ ซึ่งเป็นโรงฉายภาพยนตร์โป๊ก่อนที่จะปิดตัวลง
Shared Duplex 6 Beds – ห้องรวมมีการกั้นพื้นที่ส่วนตัวด้วยการใช้แผ่นโพลี่คาร์บอเนท เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว แต่ในขณะเดียวผู้เข้าพักก็จะไม่รู้สึกอึดอัด โดยห้องพักรวมจะมีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนแต่ละห้อง
Shared Room Double Bed and Single Bed – ห้องนอนรวมห้องนี้จะมีทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ซึ่งต่างจากโรงแรมปกติที่ห้องนอนรวมมักจะมีแค่เตียงเดี่ยวเพียงอย่างเดียว
ม่านสีแดงทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์สมัยก่อน
นิทรรศการเล็กๆบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาและกระบวนการออกแบบ Prince Theatre Heritage Stay ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับทางขึ้นชั้น 2
นอกจากการพักผ่อนในห้องพักที่ถอดแบบมาจากโรงภาพยนตร์แต่ละยุคแล้ว แขกผู้เข้าพักยังสามารถตีตั๋วมาพบปะเพื่อนฝูง หรือเข้ามานั่งเล่นรำลึกบรรยากาศเก่าๆของโรงภาพยนตร์ได้ที่ Box Office Bar ซึ่งก็คือส่วนต้อนรับลูกค้าและคาเฟ่ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยจะมีการตกแต่งเคาน์เตอร์ให้คล้ายกับที่ขายตั๋วหนังในสมัยก่อน และทางโรงแรมจะมีขายทั้งชา กาแฟ และค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังดังในยุคต่างๆ
Romeo & Juliet ค็อกเทลที่มีส่วนผสมจาก Rose infuse Vodka มอบรสชาติที่หวานหอมจากกุหลาบและผสมด้วยความขมจากว็อดก้า ซึ่งคล้ายกับความรักของโรมิโอและจูเลียตที่มีทั้งความหวานในตอนต้น และความขมขื่นในฉากสุดท้าย
อีกเมนูเครื่องดื่มที่อร่อยไม่แพ้กันนั่นก็คือ ช็อคโกแลตเย็น ที่มีความเข้มข้นของช็อคโกแลตเป็นจุดเด่น อีกทั้งรสชาติที่ไม่หวานและไม่เข้มข้มจนเกินไปนัก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆถึงต้องสั่งเมนูนี้มาิลิ้มลอง
เพราะการฟื้นคืนชีพโรงภาพยนตร์ปรินซ์ให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากมีแนวคิดและเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาให้ดีขึ้น ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่จะแผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้างได้ในไม่ช้า จนเกิดการพัฒนาพื้นที่และชุมชนให้เกิดความอย่างยั่งยืนสืบต่อไป
Owner: คุณกิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี
Designer: คุณจิตติพันธ์ ศรีกสิกร
Location: ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพ
Photography: จิณณวัตร บริหารกิจอนันต์
Map