ด้วยความที่บ้านในกรุงเทพฯ มักแฝงตัวอยู่ตามตรอกซอกซอย ลัดเลาะตามเส้นถนนที่ไม่ได้มาพร้อมผังเมืองอันเป็นระเบียบมากนัก แปลงที่ดินจึงมาพร้อมลักษณะพื้นที่ที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยตามที่ต้องการ บ้านวชิรธรรม ก็เป็นอีกหนึ่งหลังที่ประสบปัญหาดังกล่าว ข้อจำกัดทางพื้นที่ซึ่งต้องการสร้างเป็นบ้านเดี่ยว แต่มีขนาดที่ดินลึก 24 เมตร กว้างเพียง 8 เมตร ขนาบข้างด้วยเพื่อนบ้านที่อยู่อาศัยกันอย่างแนบชิด รวมถึงที่ดินยังหันหน้าเข้าสู่ทิศใต้ซึ่งร้อน และโดนแดดโดยตรงในช่วงกลางวัน คุณก็อบ-วัชรพันธ์ นราพงษ์พันธ์ เจ้าของบ้านและสถาปนิกจาก AplusCon Architects จึงลงมือเปลี่ยนข้อจำกัด เพิ่มศักยภาพให้กับพื้นที่ ด้วยความตั้งใจที่ว่า “จะทำอย่างไรให้บ้านมีพื้นที่เพียงพอ ไม่อึดอัด อยู่สบาย และได้สเปซที่มีคุณภาพมากที่สุด?”
‘Machine for living in the garden’ แฝงความนุ่มนวลด้วยสวนเขตร้อนตรงกลางบ้าน
ต้องกล่าวก่อนว่า บ้านหลังนี้ตั้งใจออกแบบให้เป็นสไตล์โมเดิร์นในแบบที่คุณก็อบถนัดและชื่นชอบ แต่หยิบเอาความเป็น Tropical เข้ามาผสมผสาน ให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่สวน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ เผยกลิ่นอายความเป็นบ้านในเขตร้อนชื้นอย่างประเทศไทย
คุณก็อบ-วัชรพันธ์ นราพงษ์พันธ์ เจ้าของบ้านและสถาปนิกจาก AplusCon Architects
‘Machine for living in the garden’ คือนิยามที่คุณก็อบใช้ในการออกแบบบ้านหลังนี้ เล่นคำตามประโยคสุดฮิตอย่าง ‘A house is a machine for living in’ ของสถาปนิกต้นแบบยุคโมเดิร์นอย่าง Le Corbusier บ้านออกแบบแสดงคาแรคเตอร์โมเดิร์นเรียบง่าย ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าบริสุทธิ์ สอดแทรกความหมายของ ‘Garden’ ผ่านการออกแบบพื้นที่สวนเขตร้อนเป็นคอร์ดบริเวณใจกลางบ้าน สร้าง Focal Point พร้อมเปิดให้แสงธรรมชาติจากด้านบนสามารถส่องถึงพื้น ชักชวนธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการอยู่อาศัย ใช้เป็นจุดพักสายตา ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของบ้าน ก็ยังสามารถสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวนี้ได้
“บ้านหลังนี้มันจะมีความแข็งนอกแต่อ่อนใน เราใช้พื้นที่สีเขียวมาเป็น soft touch จากภายนอกหลายคนอาจจะดูว่าบ้านมันแข็ง สเปซค่อนข้าง rigid แต่พอเข้ามาเจอพื้นที่สีเขียวภายใน มันจะช่วยสร้างความรู้สึกประหลาดใจในการที่เราเข้ามาครั้งแรก” สถาปนิกเล่า
Modern Tropical รูปร่างโมเดิร์น คาแรคเตอร์แบบไทย
เพื่อให้ตรงตามโจทย์ที่ตั้งใจให้เป็นบ้าน Modern Tropical เขตร้อนชื้น สถาปนิกนำคาแร็กเตอร์การยกใต้ถุนแบบบ้านไทยเข้ามาใช้ในการออกแบบ รูปทรงสี่เหลี่ยมแคบยาวของบ้านจึงถูกยกระดับขึ้น 1 ชั้นเพื่อให้อากาศสามารถถ่ายเท และไหลเวียนในแนวราบเข้าสู่ภายในได้สะดวก ในขณะที่เป็นฟังก์ชันที่จอดรถจำนวน 2 คันไปในตัว
แปลนบ้านวชิรธรรมชั้น 1 และชั้น 2 Photo Credits : AplusCon Architects
ที่จอดรถและพื้นที่ Living ภายในถูกกั้นส่วนอย่างชัดเจนด้วยการออกแบบพื้นที่ Transition Space ยกระดับพื้นขึ้นมาอีก 1.5 เมตร เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยจากถนนภายนอก และมีฟังก์ชันเป็นสวนแนว Tropical ที่คุณก็อบเลือกพันธุ์ไม้และลงมือทำสวนเองกับมือ อีกหนึ่งแนวคิดที่ทำให้ลมสามารถพัดผ่านขึ้นในทางตั้ง คือ การเจาะช่องคอร์ดกลางบ้านทะลุจากชั้น1 ถึงชั้น 3 เพื่อให้สเปซที่ปิดล้อม มีความโปร่ง โล่ง และดึงความน่าสนใจของบ้านให้มารวมกัน ณ ใจกลางบ้าน
เมื่อเข้าสู่ภายใน คุณก็อบออกแบบให้ฟังก์ชันหลักที่ต้องการใช้งานออกมากระทัดรัด เพียงพอกับความต้องการของคนสองคนตามโจทย์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก พื้นที่ชั้น 1 จึงมีเพียงส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร ส่วนครัว และห้องน้ำ ที่เชื่อมต่อกันแบบ Open Plan ส่วนชั้นสองจะเป็นห้อง Master Bedroom ห้องทำงาน และห้องนอนแขกเผื่อสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในบางครั้ง โดยฟังก์ชันทั้งหมดจะถูกดึงดูดให้มองเข้ามาพื้นที่คอร์ดใจกลางบ้าน
เติมเต็มความ Tropical ด้วย Local Materials
“การออกแบบบ้านตัวเอง เราใช้สัญชาติญาณของตัวเองในการที่จะวางแปลนตามบริบท หรือลักษณะนิสัยส่วนตัว มันท้าทายตรงที่เราได้รวบรวมประสบการณ์ต่างๆ จากสิ่งที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะทางสถาปัตยกรรม วัสดุ หรือแม้แต่พื้นที่สีเขียว นำมาแปลให้มันเป็นสิ่งที่จับต้องได้”
ถึงแม้ว่าภายนอก บ้านจะแสดงตัวตนโมเดิร์นเรียบง่ายด้วยโครงสร้างอาคารคอนกรีต ก่ออิฐฉาบปูนเรียบแบบธรรมดา แต่ความเป็น Tropical ยังถูกนำเสนอผ่านวัสดุท้องถิ่นไทยที่เราคุ้นเคยอย่าง อิฐบล็อกระบายอากาศและกระจกบานเกล็ดที่คุณก็อบเองชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ซึ่งทิศใต้และทิศเหนือของบ้านมีการออกแบบฟาซาดด้วยการใช้บานเกล็ดกระจก 2 ทิศทางเพื่อบังแดดในยามบ่าย ส่วนทางทิศตะวันตกสถาปนิกใช้บล็อกระบายอากาศสร้างความรู้สึกที่เป็นส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมองทะลุผ่านออกไปสู่ภายนอก และยังยอมให้ลมธรรมชาติไหลผ่านได้บ้าง
คุณก็อบออกแบบอิฐบล็อกที่ว่านี้ด้วยแพทเทิร์นที่ไล่ความโปร่งน้อยไปมากจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เมื่อแสงแดดตกกระทบจากทิศตะวันตก จึงเกิดมิติของแสงและเงาบนผนัง สร้างความแตกต่างของลวดลายไปตามช่วงเวลาที่ธรรมชาติยอมให้เป็น
“บ้านมันเป็นปัจเจกของแต่ละคน บางคนอาจจะต้องการความหรูหรา สเปซที่กว้างใหญ่เพื่อให้เหมาะกับความเป็นเขา แต่อย่างบ้านหลังนี้ที่ผู้อยู่อาศัยคือเราเอง สิ่งที่เราต้องการมันเป็นเพียงความ Practical ความอยู่สบาย ความอบอุ่น ทำความสะอาดและดูแลรักษาง่าย อันนี้เป็นบ้านที่เราต้องการ มันคือความสุขของเรา ในการที่ค่อยๆ ทำ จากพื้นดินว่างเปล่าให้มันเกิดเป็นสเปซที่เราต้องการให้เป็น ที่เราต้องการจะอยู่”
บ้านวชิรธรรมแห่งนี้แสดงตัวตนชัดเจนในแง่ของลักษณะทางสถาปัตยกรรม อาคารโมเดิร์นทรอปิคอลทรงเหลี่ยมสีขาวแข็งแรงเป็นเกราะป้องกันให้กับผู้อยู่อาศัย แต่ใครจะรู้ว่าภายในเรากลับพบความมีชีวิตที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติซึ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง หรือแม้แต่ความสุขของคุณก็อบที่ได้ออกแบบและอยู่อาศัยภายในบ้านที่ตรงใจและตรงต่อความต้องการ อาจเป็นดังเช่นคำกล่าวที่ว่าบ้านหลังนี้แข็งแกร่งจากภายนอกแต่อ่อนโยนจากภายใน
Location: ถนนวชิรธรรมสาธิต สุขุมวิท101/1 กรุงเทพฯ
Gross Built Area: 305 ตารางเมตร
Owner : วัชรพันธ์ นราพงษ์พันธ์
Architecture & Interior Design : AplusCon Architects Co.,Ltd.